ปลูกผม วิธีแก้ปัญหาศีรษะล้าน และฟื้นฟูผมบางให้หนาขึ้น

ปลูกผม คืออะไร?

ปลูกผม (Hair Transplant) เป็นวิธีแก้ไขปัญหาศีรษะล้าน ผมบาง ด้วยการผ่าตัดปลูกถ่ายเส้นผม โดยแพทย์จะทำการย้ายรากผมจากบริเวณที่มีเส้นผมแข็งแรง (Donor Area) เช่น บริเวณท้ายทอย มาปลูกในบริเวณศีรษะที่มีปัญหา ผมบาง หัวล้าน เพื่อสร้างเส้นผมใหม่ในบริเวณที่ต้องการ จะทำให้ผมงอกใหม่ ช่วยฟื้นฟูผมบางให้หนาขึ้น

วิธีปลูกผม เป็นทางออกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ประสบปัญหา ผมบาง ศีรษะล้าน ผมร่วง ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในผู้ชายที่มีภาวะผมร่วงจากพันธุกรรม (Male Pattern Baldness) และผู้หญิงที่มีปัญหาผมบางจากฮอร์โมนหรือกรรมพันธุ์ จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่าประมาณ 50% ของผู้ชาย และ 30% ของผู้หญิงจะเผชิญกับปัญหานี้

ปลูกผมถาวร นับเป็นวิธีแก้ปัญหาศีรษะล้านที่ได้ผลดีที่สุดในปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดปลูกผมที่ทันสมัย ทั้งแบบ FUT (Follicular Unit Transplantation) และ FUE (Follicular Unit Extraction) ทำให้ผู้ที่กังวลเรื่องความมั่นใจจากปัญหาผมบางสามารถกลับมามีเส้นผมที่ดูเป็นธรรมชาติได้อีกครั้ง

ปัญหาและสาเหตุของผมร่วง

• ผมร่วงแบบทั่วไป Androgenic alopecia
• ผมร่วงจากกรรมพันธุ์
• ผมร่วงจากความเครียด
• ผมร่วงหลังคลอด

ปัญหาผมร่วง เป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้กับหลายๆ คน โดยเฉพาะผู้ชาย การมีเส้นผมที่หนาและสุขภาพดี ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง แต่ยังส่งผลต่อภาพลักษณ์โดยรวมอีกด้วย หนึ่งในทางออกที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหานี้ คือ การปลูกผม บทความนี้จะอธิบายเทคนิค ขั้นตอนการปลูกผม ผลลัพธ์ที่คาดหวัง เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ

เทคนิคการปลูกผม

การปลูกผมมีหลายเทคนิคที่ได้รับความนิยม แต่ละเทคนิคมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ดังนี้:

ปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction)

ปลูกผม FUE เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและมีรอยแผลเป็นน้อยมาก โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือขนาดเล็กเจาะดึงรากผมออกมาทีละรูจากบริเวณท้ายทอย ซึ่งเป็นบริเวณที่มีผมขึ้นหนาแน่นและไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากฮอร์โมนที่ทำให้ผมร่วง จากนั้นจึงนำรากผมที่ได้มาปลูกในบริเวณที่ผมบางหรือศีรษะล้าน

• ข้อดี: ไม่มีรอยแผลเป็น ฟื้นตัวเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกผมในปริมาณน้อย
• ข้อเสีย: ใช้เวลานาน ค่าใช้จ่ายสูง ต้องการแพทย์ที่มีความชำนาญ

ปลูกผม FUT (Follicular Unit Transplantation)

ปลูกผม FUT เป็นวิธีการที่ใช้การตัดหนังศีรษะบริเวณท้ายทอยออกเป็นแถบเพื่อเก็บเซลล์รากผมที่แข็งแรง จากนั้นจะนำเซลล์เหล่านี้ไปแยกเป็นหน่วยเล็ก ๆ ก่อนที่จะปลูกลงในบริเวณที่มีปัญหาผมบางหรือศีรษะล้าน โดยวิธีนี้ช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ถาวรและมีประสิทธิภาพสูง

• ข้อดี: ได้ปริมาณเส้นผมมาก รากผมที่ได้มีคุณภาพสูง
• ข้อเสีย: มีรอยแผลเป็นที่ชัดเจน ฟื้นตัวช้า

ปลูกผม DHI (Direct Hair Implantation)

ปลูกผม DHI เป็นเทคนิคที่ทันสมัยซึ่งใช้เครื่องมือพิเศษที่เรียกว่า Implanter Pen เพื่อปลูกกราฟต์ผมโดยตรงลงบนหนังศีรษะที่ต้องการ โดยไม่ต้องเจาะรูเปิดก่อน ทำให้การปลูกผมเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

• ข้อดี: แผลมีขนาดเล็กและฟื้นตัวได้เร็วขึ้น มีอัตราการรอดของกราฟต์สูง
• ข้อเสีย: ค่าใช้จ่ายสูง ใช้เวลานาน

ปลูกผม WAW FUE (Follicular Unit Extraction)

ปลูกผม WAW FUE เป็นเทคโนโลยีปลูกผมขั้นสูงที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซนำเข้ามาจากประเทศเบลเยียม โดยเป็นการพัฒนาต่อยอดมาจากเทคนิค FUE (Follicular Unit Extraction) ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เพื่อช่วยให้การปลูกผมได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น ใช้ระยะเวลาสั้นลงและเก็บรากผมอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเทคนิคการฟื้นฟูเส้นผมที่ทันสมัย ซึ่งเน้นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดในการปลูกถ่ายเส้นผม วิธีนี้ช่วยให้สามารถดึงและปลูกถ่ายรากผมได้โดยไม่ใช้สารเคมีหรือสิ่งปนเปื้อนที่เป็นอันตราย ทำให้ระยะเวลาการฟื้นตัวสั้นลงและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน

ขั้นตอนการปลูกผม

ขั้นตอนการปลูกผมมีหลายขั้นตอน ตั้งแต่การปรึกษาแพทย์จนถึงการดูแลหลังการปลูกผม โดยทั่วไปสามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:

1. การปรึกษาแพทย์: แพทย์จะประเมินสภาพเส้นผมและวางแผนการรักษา
2. การตรวจสุขภาพ: ตรวจเลือดเพื่อคัดกรองโรคต่างๆ
3. ออกแบบแนวผม: แพทย์จะร่วมกับคนไข้ในการออกแบบแนวผมที่ต้องการ
4. เตรียมบริเวณปลูก: โกนผมหรือทำความสะอาดบริเวณที่จะทำการปลูก
5. เก็บกราฟต์: ใช้เครื่องมือเฉพาะในการเก็บเซลล์รากผมจากบริเวณท้ายทอย
6. ปลูกกราฟต์: วางกราฟต์ลงในบริเวณที่ต้องการตามแนวและทิศทางที่ออกแบบไว้
7. ดูแลหลังการปลูก: ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ผลลัพธ์หลังจากปลูกผม

หลังจากการปลูกผมประมาณ 6-12 เดือน เส้นผมที่ปลูกจะเริ่มงอกออกมาอย่างช้าๆ และหนาขึ้นเรื่อยๆ ผลลัพธ์ที่ได้จะดูเป็นธรรมชาติราวกับผมเดิมของคุณเอง และจะมีโอกาสร่วงน้อยกว่าเนื่องจากรากผมที่นำมาปลูกมีความแข็งแรง

ข้อดีของการปลูกผม

• ผมหนาขึ้น: การปลูกผมช่วยแก้ปัญหาผมบางและหัวล้านได้อย่างตรงจุด
• ดูอ่อนเยาว์ขึ้น: ผมที่หนาและดกดำช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพและความมั่นใจ
• ผลลัพธ์ถาวร: ผมที่ปลูกใหม่จะอยู่ถาวรและดูเป็นธรรมชาติ
• เพิ่มความมั่นใจ: ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาผมบางรู้สึกดีขึ้นเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของตนเอง
• แก้ปัญหาผมร่วงได้อย่างตรงจุด: เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงจากกรรมพันธุ์ หรือสาเหตุอื่นๆ

ข้อเสียของการปลูกผม

• ค่าใช้จ่ายสูง: การปลูกผมมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
• ต้องใช้เวลาพักฟื้น: หลังการปลูกผม ผู้ป่วยต้องใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์
• อาจมีภาวะแทรกซ้อน: เช่น ติดเชื้อ หรือรากผมไม่ติด

การเตรียมตัวก่อนการปลูกผม

1. ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผม แพทย์จะทำการประเมินสภาพเส้นผม หนังศีรษะ และปัญหาผมร่วงของคุณ เพื่อวิเคราะห์สาเหตุ แนะนำวิธีการปลูกผมที่เหมาะสม และออกแบบทรงผมใหม่ให้เข้ากับใบหน้าของคุณ
2. แจ้งข้อมูลส่วนตัวและประวัติสุขภาพ คุณต้องแจ้งข้อมูลส่วนตัว ประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ยาที่ทานเป็นประจำ และการแพ้ยาให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด เพื่อป้องกันความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
3. งดรับประทานยาบางชนิดแพทย์อาจแนะนำให้คุณงดรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน ยาต้านการแข็งตัวของเลือด วิตามินอี อาหารเสริมสมุนไพรต่างๆ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนการปลูกผม เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำและเลือดออก
4. งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ เนื่องจากการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต ส่งผลต่อการปลูกผมและการหายแผล
5. สระผมให้สะอาด ในวันก่อนการปลูกผม ควรสระผมให้สะอาดโดยไม่ต้องใช้ครีมนวดหรือผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม

การดูแลหลังการปลูกผม

1. ประคบเย็น ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการผ่าตัด ควรประคบเย็นบริเวณที่ปลูกผมเพื่อลดอาการบวมและอักเสบ ประคบประมาณ 15-20 นาที ครั้งละ 2-3 ครั้งต่อวัน
2. ควรนอนหงายโดยใช้หมอนรองคอสูง เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลย้อน ศีรษะบวม และกราฟต์ผมหลุด
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัส แกะ หรือเกาบริเวณที่ปลูกผม เพราะอาจทำให้กราฟต์ผมหลุดได้
4. ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดอาการปวด
5. งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะสารเคมีเหล่านี้ส่งผลต่อการไหลเวียนโลหิตและอาจทำให้แผลหายช้าลง
6. รับประทานอาหารอ่อนๆย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เผ็ด เปรี้ยว อาหารทะเล และอาหารหมักดอง

อาการที่อาจพบได้หลังปลูกผม

ผลข้างเคียงหลังจากทำศัลยกรรมปลูกผมเป็นสิ่งหนึ่งที่คนไข้ไม่สามารถควบคุมให้ไม่เกิดได้ แต่สามารถบรรเทา และป้องกันได้ หากปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งอาการต่าง ๆ ที่สามารถพบได้หลังจากปลูกผมมีดังนี้

1. หลังจากปลูกผมเสร็จแล้วในช่วงแรก คนไข้อาจจะมีอาการผมร่วงที่เรียกว่า Shock loos ซึ่งสามารถเกิดได้กับทุกคน เนื่องจากเซลล์รากผมต้องการปรับตัวในช่วงแรก จึงส่งผลทำให้ผมบริเวณใกล้เคียงร่วงได้ ถึงแม้จะผ่านไปแล้ว 3 – 4 สัปดาห์ แต่หลังจากนั้นเซลล์รากผมจะค่อย ๆ ฟื้นตัวอาจจะยังไม่งอกใหม่ในทันที แต่พอผ่านไปสัก 3 – 4 เดือนก็จะกลับเป็นปกติ (ระยะเวลาการฟื้นตัวของเซลล์รากผมขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)
2. มีอาการชาบริเวณหนังศีรษะ สามารถพบได้ในช่วง 1 – 3 เดือนแรก เนื่องจากเส้นประสาทบริเวณผิวหนังอาจถูกกระทบกระเทือนระหว่างผ่าตัด
3. อาการคันที่หนังศีรษะ เป็นอีกหนึ่งอาการที่พบได้บ่อยหลังจากทำหัตถการ ซึ่งเกิดจากกระบวนการซ่อมแซมตัวเองของร่างกายหลังจากผ่าตัด จึงทำให้คนไข้มีอาการคันบริเวณแผล หรือรอบ ๆ อย่างมาก แต่ขอแนะนำว่าไม่ควรเกาแรง ๆ นะครับเพราะว่าสามารถทำลายรากผมที่ปลูกมาได้ครับ
4. อาการบวมบริเวณหน้าผาก หรือใบหน้า เป็นอาการที่พบได้น้อยมาก ส่วนใหญ่มักเกิดหลังจากทำหัตถการมาแล้ว 1 เดือน ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการใช้ยาชาขณะผ่าตัด เนื่องจากร่างกายจะค่อย ๆ ดูดซึมเข้าไปเองจึงอาจทำให้มีอาการบวมย้อนหลังได้ แนะนำให้นอนหนุนหมอนสูง ประมาณ 45 องศา เพื่อลดอาการบวมลงครับ

ปลูกผมที่ไหนดี โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชพร้อมบริการ

• เทคนิคปลูกผมที่หลากหลาย: ปลูกผมที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช มีเทคนิคปลูกผมที่หลากหลาย เหมาะกับสภาพเส้นผมและความต้องการของแต่ละบุคคล เช่น เทคนิค FUE เทคนิค FUT 
• ทีมแพทย์เฉพาะทาง: ทีมแพทย์ผู้มากประสบการณ์ด้านการปลูกผม พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลผู้เข้ารับบริการทุกขั้นตอน
• เทคโนโลยีที่ทันสมัย: ปลูกผมที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ห้องผ่าตัดมาตรฐานระดับโรงพยาบาล
• ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ: ปลูกผมที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช มุ่งมั่นให้บริการปลูกผมที่มีประสิทธิภาพ คืนผลลัพธ์เส้นผมดกหนา เป็นธรรมชาติ

ปลูกผมราคาเท่าไหร่ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

• จำนวนกราฟต์ที่ปลูก: กราฟต์ คือ หน่วยของเส้นผม โดยทั่วไป 1 กราฟต์จะมีประมาณ 1-3 เส้นผม ราคาปลูกผม ต่อกราฟต์จะเริ่มต้นที่ประมาณ 89 บาท
• เทคนิคการปลูกผม: ปลูกผมที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช มีเทคนิคการปลูกผมให้เลือกหลายแบบ เช่น FUE, FUT แต่ละเทคนิคจะมีราคาที่แตกต่างกันไป
• บริเวณที่ปลูก: ราคาปลูกผม บริเวณหน้าผาก ไรผม หรือกระหม่อม จะมีราคาสูงกว่าบริเวณอื่น

โปรโมชั่นพิเศษ

รีวิวปลูกผมกับหมอนุ่น พญ.กุลธิดา ลุสวัสดิ์

รีวิวปลูกผมกับหมอพิ้งกี้ พญ.ณัฐรดา ประทีป

รีวิวปลูกผม คุณกาญจน์ กาญจนสุธา ผู้เข้าประกวดมิสทิฟฟานี่ 2019 หลังจากมาทำการปลูกผมที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช มา 11 เดือน ผมขึ้นดีมาก ใช้ชีวิตง่ายมาก บางทีก็ลืมไปว่าตัวเองไปปลูกผมมา

รีวิวปลูกผม คุณแอล ภาณุทัช หลังจากมาทำการปลูกผมที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชมา 8 เดือนแล้ว มีความมั่นใจมากขึ้น กล้าที่จะเซ็ตผมเปิดมากขึ้น มีคนทักตลอดเลยว่าไปปลูกผมที่ไหนมา เป็นอย่างไรบ้าง แอลก็บอกตามจริงเลยว่าที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ขึ้นทุกกราฟ ขึ้นถี่และแน่นมาก ปลูกไป 3,400 กราฟ ทำให้มั่นใจมากขึ้น เวลาออกไปติดต่องานหรือออกไปพบผู้ใหญ่

รีวิวความประทับใจจากลูกค้า

สาระน่ารู้เกี่ยวกับการทำศัลยกรรม โดยโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช

• ดูดไขมัน วิธีลดไขมันส่วนเกิน กระชับสัดส่วน
• ตัดหนังหน้าท้อง บอกลาหน้าท้องย้วย หน้าท้องแตกลาย
• เสริมหน้าผาก ด้วยซิลิโคนดีอย่างไร?