ศัลยกรรมนมอันตรายไหม พักฟื้นกี่วัน ?
ศัลยกรรมนมอันตรายไหม เพราะว่าเป็นหนึ่งในหัตถการปรับรูปทรงของหน้าอกให้สวยงามมั่นใจขึ้น โดยมีเทคนิคและวัสดุที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความต้องการ และความเหมาะสมของแต่ละบุคคล แต่ก่อนจะตัดสินใจเสริมหน้าอก สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ
ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึง ความปลอดภัย ระยะเวลาพักฟื้น และ คำแนะนำ เพิ่มเติมสำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจเสริมหน้าอก
ศัลยกรรมนมเหมาะสมกับใคร
ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า การศัลยกรรมนมเป็นการผ่าตัดเพื่อเสริมขนาด เปลี่ยนรูปทรง หรือยกกระชับหน้าอก ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีความต้องการดังต่อไปนี้
- หน้าอกเล็ก ผู้หญิงหลายคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจในรูปร่างหน้าอกที่เล็ก การเสริมหน้าอกสามารถช่วยเพิ่มขนาดและความกลมกลืนให้กับหน้าอก ช่วยให้ใส่เสื้อผ้าได้สวยงามและมั่นใจขึ้น
- หน้าอกหย่อนคล้อย หน้าอกอาจหย่อนคล้อยลงตามกาลเวลา หรือหลังการตั้งครรภ์ การเสริมหน้าอกควบคู่กับการยกกระชับหน้าอก จะช่วยให้หน้าอกกลับมาดูเต่งตึงและได้รูปทรงสวยงาม
- หน้าอกไม่สมมาตร ผู้หญิงบางคนอาจมีหน้าอกที่ไม่เท่ากัน การเสริมหน้าอกสามารถช่วยปรับขนาดและรูปทรงให้สมมาตรกันมากขึ้น
- ต้องการแก้ไขรูปทรงหลังการผ่าตัด ผู้หญิงที่เคยผ่าตัดเต้านม เช่น การรักษามะเร็งเต้านม การเสริมหน้าอกสามารถช่วยสร้างรูปทรงหน้าอกขึ้นมาใหม่ได้
เทคนิคศัลยกรรมนมมีกี่แบบ
เทคนิคการศัลยกรรมหน้าออก แบ่งออกเป็น 3 เทคนิคดังนี้
การเสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อ (Subglandular Plane)
การเสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อ (Subglandular Plane) เป็นเทคนิคการเสริมหน้าอกแบบหนึ่งที่แพทย์จะวางซิลิโคนไว้เหนือกล้ามเนื้อหน้าอก โดยวางซิลิโคนระหว่างชั้นของเนื้อหน้าอกและกล้ามเนื้อ เทคนิคนี้เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกหรือไขมันหน้าอกอยู่บ้าง เพราะกล้ามเนื้อหน้าอกจะช่วยยึดเกาะซิลิโคนได้ดี
การเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ (Submuscular Plane)
การเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ เป็นเทคนิคการเสริมหน้าอกแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยม โดยแพทย์จะทำการวางถุงซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอกมัดใหญ่ การวางถุงซิลิโคนไว้ใต้กล้ามเนื้อจะช่วยลดแรงกดต่อต่อมน้ำนมและผิวหนัง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดพังผืดรัดหน้าอก
การเสริมหน้าอกกึ่งเหนือกล้ามเนื้อ (Dual Plane)
เป็นเทคนิคการเสริมหน้าอกแบบผสมผสานระหว่างการเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ (Submuscular Plane) และการเสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อ (Subglandular Plane) โดยแพทย์จะวางถุงซิลิโคนส่วนบนไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอก และวางถุงซิลิโคนส่วนล่างไว้เหนือต่อมน้ำนม เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อย ผิวบาง ต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
วิธีเลือกซิลิโคนศัลยกรรมนม แบบไหนดี ?
ซิลิโคนมีหลายแบบ แต่ละแบบก็มีข้อดี ข้อเสีย และเหมาะกับรูปทรงหน้าอกและความต้องการของแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป
ประเภทของผิวซิลิโคน
- ผิวเรียบ (Smooth Surface): เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อเยื่อหน้าอกน้อย ผิวซิลิโคนเรียบช่วยลดโอกาสการเกิดพังผืด แต่ต้องนวดหน้าอกเป็นประจำเพื่อป้องกันการแข็งตัวของซิลิโคน
- ผิวทราย (Textured Surface): เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อเยื่อหน้าอกมาก ผิวซิลิโคนแบบนี้ช่วยยึดเกาะกับเนื้อเยื่อได้ดี ลดโอกาสการเคลื่อนตัวของซิลิโคน แต่มีความเสี่ยงต่อการเกิดพังผืดมากกว่าแบบผิวเรียบ
รูปทรงของซิลิโคน
- ทรงกลม (Round Implant): เหมาะกับผู้ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกให้ดูอวบอิ่ม เนินอกชัดเจน เหมาะกับผู้ที่มีหน้าอกแบนราบ
- ทรงหยดน้ำ (Teardrop Implant): เหมาะกับผู้ต้องการเพิ่มขนาดและความกลมกลืนของหน้าอก เหมาะกับผู้ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อยหรือต้องการเนินอกที่เป็นธรรมชาติ
- ทรงกึ่งหยดน้ำ (Anatomical Implant): เหมาะกับผู้ต้องการหน้าอกที่ดูสมจริง ใกล้เคียงกับธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อเยื่อหน้าอกเพียงพอ
ขนาดของซิลิโคน
ขนาดของซิลิโคนจะขึ้นอยู่กับขนาดและรูปทรงของหน้าอกเดิม เนื้อเยื่อหน้าอก และความต้องการของแต่ละบุคคล ศัลยแพทย์จะทำการวัดและประเมินอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจเลือกขนาดซิลิโคนที่เหมาะสม
ศัลยกรรมนมราคา เท่าไหร่ ถูกแพงขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง
การศัลยกรรมนมเป็นหนึ่งในวิธีการที่นิยมใช้เพื่อปรับปรุงรูปร่างและเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง ราคาของการศัลยกรรมหน้าอกอาจแตกต่างกันไปมากขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนั้นในบทความนี้ ผมจะอธิบายปัจจัยที่มีผลต่อราคา และสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกทำศัลยกรรมหน้าอก
1. ประเภทของวัสดุที่ใช้
วัสดุที่ใช้ในการเสริมหน้าอกมีหลายชนิด เช่น ซิลิโคน และน้ำเกลือ ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ราคาของวัสดุก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ราคาการศัลยกรรมหน้าอกแตกต่างกันไป วัสดุซิลิโคนมักจะมีราคาสูงกว่าเพราะมีความยืดหยุ่นและให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากกว่าน้ำเกลือ
2. ประสบการณ์ของศัลยแพทย์
ประสบการณ์ของศัลยแพทย์ก็มีผลต่อราคา ศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียงและมีประสบการณ์มากมักจะมีค่าบริการสูงกว่า ทั้งนี้เพราะความเชี่ยวชาญนั้นสามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
3. สถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน
ราคาการศัลยกรรมหน้าอกในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานสูงและอุปกรณ์ที่ทันสมัยมักจะสูงกว่า เพราะการรักษามาตรฐานและคุณภาพ
4. การดูแลหลังผ่าตัด
การดูแลหลังผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อราคาการศัลยกรรม หน้าอกที่มีการดูแลหลังผ่าตัดที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการหายดีและได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ บริการหลังผ่าตัดที่ดีรวมถึงการตรวจติดตามอาการล้วนมีผลต่อราคา
5. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
นอกจากค่าใช้จ่ายหลักแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่น ค่ายา ค่าพยาบาล ค่าห้องพัก ค่าตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัด ฯลฯ ซึ่งควรพิจารณาเมื่อคำนวณงบประมาณในการทำศัลยกรรม
6. ความต้องการเฉพาะบุคคล
ลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น ขนาดหน้าอกที่ต้องการ ปัญหาทางการแพทย์ที่มีอยู่ และความซับซ้อนของการผ่าตัด ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาต่างกันไป
วิธีเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมนม
ศัลยกรรมนมยอดนิยมที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้หญิงหลายคน อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดทุกชนิดมีความเสี่ยง ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมจึงสำคัญมาก เพื่อให้การผ่าตัดราบรื่นและผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ควรเตรียมตัวตามคำแนะนำดังนี้
1. ศึกษาข้อมูลให้ละเอียด ก่อนอื่นควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเสริมหน้าอกอย่างละเอียด เลือกอ่านรีวิวจากผู้เข้ารับการผ่าตัดจริง เปรียบเทียบราคาและบริการจากสถานพยาบาลต่างๆ และที่สำคัญคือ เลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านนี้โดยเฉพาะ
2. ควรนัดปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับความต้องการ รูปทรง ขนาด และเทคนิคการเสริมหน้าอกที่เหมาะสมกับรูปร่างและสรีระของเรา ศัลยแพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ประเมินความพร้อม และให้คำแนะนำอย่างละเอียด
3. งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 1 เดือนก่อนการผ่าตัด เพราะสารในบุหรี่และเเอลกอฮล์ส่งผลต่ออกซิเจน และระบบไหลเวียนเลือด
4. หลีกเลี่ยงยาบางชนิดที่อาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน ยาต้านการอักเสบ สมุนไพร
5. งดอาหารและน้ำ โดยทั่วไปจะงดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด เพื่อป้องการสำลักอาหารเข้าหลอดลมขณะดมยาสลบ
วิธีการผ่าตัดทำศัลยกรรมนม ผ่านกล้อง เจ็บน้อย และฟื้นตัวเร็ว
1. การผ่าตัดแบบดั้งเดิม (Traditional Breast Augmentation)
วิธีนี้เป็นวิธีการเสริมหน้าอกที่ค่อนข้างได้รับความนิยม และใช้งานมาอย่างยาวนาน ซึ่งสามารถแบ่งเป็นหลายวิธีตามตำแหน่งของรอยแผลผ่าตัด ดังนี้:
- ใต้ราวนม (Inframammary): การผ่าตัดที่รอยแผลอยู่ใต้ราวนม วิธีนี้ช่วยให้แพทย์สามารถวางซิลิโคนได้อย่างแม่นยำและมีโอกาสที่จะซ่อนแผลผ่าตัดได้ดี
- รอบปานนม (Periareolar): การผ่าตัดที่รอยแผลอยู่รอบปานนม วิธีนี้ช่วยให้แผลมีขนาดเล็กและกลมกลืนกับบริเวณปานนม
- รักแร้ (Transaxillary): การผ่าตัดที่รอยแผลอยู่ที่บริเวณรักแร้ วิธีนี้ช่วยให้ไม่มีแผลที่หน้าอก แต่การวางซิลิโคนอาจทำได้ยากกว่า
2. การผ่าตัดแบบส่องกล้อง (Endoscopic Breast Augmentation)
การผ่าตัดแบบส่องกล้องเป็นวิธีที่ทันสมัยและช่วยลดการเกิดรอยแผลใหญ่ มีขั้นตอนดังนี้
- ส่องกล้องที่รักแร้: แพทย์จะทำการเจาะรูเล็กๆ ที่บริเวณรักแร้แล้วใส่กล้องขนาดเล็กเข้าไปเพื่อช่วยในการมองเห็นบริเวณภายในหน้าอก จากนั้นจะใส่ซิลิโคนเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการ
- ส่องกล้องที่บริเวณอื่น: ในบางกรณี อาจใช้วิธีการส่องกล้องที่บริเวณอื่นๆ ตามที่เหมาะสม
รีวิวการ ศัลยกรรมนม มาสเตอร์พีช
ควรทำศัลยกรรมนม เท่าไหร่ดี กี่ CC
การทำหน้าอกให้สวยนั้น ไม่ได้มีแค่เรื่องขนาด CC เท่านั้นที่สำคัญ ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่ต้องพิจารณาควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติ เหมาะกับรูปร่างและสรีระของแต่ละบุคคล ปัจจัยหลัก ในการพิจารณาขนาดหน้าอกที่เหมาะสม มีดังนี้
- ขนาดและรูปทรงของหน้าอกเดิม หน้าอกที่มีเนื้อหน้าอกน้อย จะรองรับซิลิโคนได้น้อยกว่าหน้าอกที่มีเนื้อหน้าอกมาก
- สัดส่วนของร่างกาย ความสูง น้ำหนัก และโครงสร้างกระดูก ส่งผลต่อความเหมาะสมของขนาดหน้าอก
- ความต้องการของแต่ละบุคคล แต่ละคนมีความชอบและความคาดหวังที่แตกต่างกัน
ตัวอย่างขนาดซิลิโคน
- หากต้องการเพิ่มขนาดหน้าอก 1 คัพ ซิลิโคนจะอยู่ที่ไซซ์ 200-250 CC
- หากต้องการเพิ่มขนาดหน้าอก 2 คัพ ซิลิโคนจะอยู่ที่ไซซ์ 250-300 CC
- หากต้องการเพิ่มขนาดหน้าอก 3 คัพ ซิลิโคนจะอยู่ที่ไซซ์ 300-350 CC
สาวสอง หรือ LGBTQ ทำ ศัลยกรรมนม แตกต่างกับผู้หญิงไหม
ผู้หญิงโดยทั่วไปจะมีเนื้อเยื่อเต้านม ไขมัน และท่อน้ำนมอยู่บริเวณหน้าอก แต่สำหรับสาวสอง มักจะมีเนื้อเยื่อเต้านมน้อย ไขมันน้อย และท่อน้ำนมที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งส่งผลต่อรูปร่างและขนาดของหน้าอกโดยธรรมชาติ
เทคนิคการผ่าตัดที่ปรับให้เหมาะสม ด้วยความแตกต่างของโครงสร้างหน้าอก ศัลยแพทย์จึงต้องใช้วิธีการผ่าตัดที่ปรับให้เหมาะสมกับสาวสองโดยเฉพาะ โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 2 เทคนิคหลักๆ ดังนี้
- การเสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ: เหมาะสำหรับสาวสองที่มีเนื้อเยื่อเต้านมน้อย ช่วยให้ซิลิโคนกลมกลืนไปกับเนื้อหน้าอกได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- การเสริมหน้าอกใต้ต่อมน้ำนม: เหมาะสำหรับสาวสองที่มีเนื้อเยื่อเต้านมบางส่วน ช่วยยกกระชับหน้าอกและสร้างเนินอกได้
ขนาดและรูปทรงของซิลิโคน การเลือกขนาดและรูปทรงของซิลิโคนสำหรับสาวสองนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ลักษณะโครงสร้างหน้าอก เนื้อเยื่อ ไขมัน กล้ามเนื้อ และความต้องการของแต่ละบุคคล โดยศัลยแพทย์จะทำการวิเคราะห์อย่างละเอียดเพื่อเลือกซิลิโคนที่เหมาะสมที่สุด
วิธีดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมนม
การดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมหน้าอกเป็นสิ่งสำคัญมาก หากดูแลตัวเองไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามาได้ ดังนั้นเพื่อให้แผลหายเร็ว ป้องกันการติดเชื้อ ควรดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนนี้
1. พักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายของเราต้องการเวลาในการฟื้นฟูหลังจากผ่านการผ่าตัด การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมเนื้อเยื่อและลดอาการบวมได้เร็วขึ้น
2. ประคบเย็น ในช่วง 2-3 วันแรกหลังการผ่าตัด ให้ประคบเย็นบริเวณหน้าอกเป็นเวลา 15-20 นาที ประมาณ 3-4 ครั้งต่อวัน การประคบเย็นจะช่วยลดอาการบวมและปวดได้
3. ใส่ซัพพอร์ตบรา (Support Bra)ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อช่วยให้หน้าอกเข้ารูปและลดอาการบวม ควรเปลี่ยนซัพพอร์ตบรา (Support Bra)ทุกวัน
4. ทานยาตามแพทย์สั่งแพทย์จะสั่งยาแก้ปวด ยาลดบวม และยาแก้อักเสบให้คนไข้ ทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้อาการปวดและบวมลงได้เร็วขึ้น
5. งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ สารเคมีในบุหรี่และแอลกอฮอล์ส่งผลต่อการสมานแผล ทำให้แผลหายช้าและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ควรงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
6. หลีกเลี่ยงการยกของหนัก การยกของหนักอาจทำให้แผลผ่าตัดฉีกขาดหรือบวม ควรงดการยกของหนักอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
7. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การออกกำลังกายหนักอาจทำให้เหงื่อออกมาก เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ควรงดการออกกำลังกายหนักอย่างน้อย 4 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
สรุปศัลยกรรมนมที่ไหนดี
การศัลยกรรมนมเป็นวิธีการเพิ่มขนาด และปรับรูปทรงหน้าอกที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้หญิงหลายคนมีหน้าอกที่สวยงาม มั่นใจ ก่อนการตัดสินใจทำหน้าอกควรปรึกษาศัลยแพทย์เฉพาะทาง โดยตรงเพื่อให้ศัลยแพทย์จะทำการประเมินรูปร่างหน้าอก เนื้อเยื่อหน้าอก และความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อแนะนำซิลิโคนที่เหมาะสม แต่ซิลิโคนเสริมหน้าอกก็มีอายุการใช้งานจำกัด การดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยให้ซิลิโคนอยู่ได้นานขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ