แก้ไขหน้าอก

แก้ไขหน้าอกห่าง ได้ที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ

การแก้ไขหน้าอกจะช่วยสาว ๆ หลายคนที่เคยทำหน้าอกมาแล้ว อาจต้องเคยเจอกับปัญหาเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นหน้าอกไม่สวยดั่งใจ เกิดพังผืด ขนาดของเต้านมที่ไม่เท่ากันหรือทำแล้วหน้าอกห่าง ไม่ชิด ไม่กระชับ หย่อนยาน ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันที่ก้าวไปไกล หลายคนจึงเลือกที่จะปรับ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง แต่เนื่องจากการผ่าตัดแก้ไขนมเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างยากมากกว่าการผ่าตัดเสริมหน้าอกในครั้งแรก

ดังนั้นจึงควรเข้ารับบริการแก้หน้าอกในโรงพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน เพื่อเข้าปรึกษากับแพทย์ผู้ชำนาญการอย่างละเอียด แพทย์จะได้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จากนั้นจะได้มีการวิเคราะห์และประเมินการแก้ไขตามจริง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั่นเอง

ซิลิโคน เสริมหน้าอกทรงกลม เกรดพรีเมี่ยมที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช
ซิลิโคน เสริมหน้าอกที่เลือกขนาดได้ อ่อนโยนต่อร่างกาย

ปัจจัยที่ทำให้ต้องมีการแก้ไขนม

  1. การเกิดเต้านมสองลอน มักเกิดในกรณีที่มีการผ่าตัดเสริมหน้าอก โดยใช้ซิลิโคนขนาดใหญ่มากกว่าขนาดตัว ทำให้เต้านมขนาดเกินขอบด้านล่าง และเกิดรอยพับของเต้านมใหม่ต่ำกว่ารอยพับธรรมชาติเดิม จึงทำให้หน้าอกดูเป็นลอนเป็นสองชั้น
  2. การเกิดพังผืดแข็งหดรัดรอบซิลิโคนหน้าอก เรียกว่าแคปซูล (Capsular) ซึ่งหากมีพังผืดหนามากจะทำให้รูปทรงหน้าอกเปลี่ยนไปไม่สวยงาม และจะรู้สึกได้ว่าหน้าอกแข็งขึ้นเวลาสัมผัส ซึ่งอาจจะมีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย
  3. เกิดความไม่เท่ากันของขนาดหน้าอก โดยปกติแล้วหน้าอกทั้งสองข้างจะมีลักษณะไม่เท่ากันอยู่แล้วตามธรรมชาติ เมื่อมีการเสริมหน้าอกไปแล้ว อาจทำให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้นทั้งนี้อาจเกิดจากหลายปัจจัยร่วมด้วย เช่น พื้นที่รอบ ๆ ของตัวซิลิโคนไม่พอดีหรือเกิดการเคลื่อนที่ของตัวซิลิโคนร่วมด้วย
  4. เกิดความหย่อยคล้อย ทำให้รูปทรงหน้าอกเปลี่ยนไปจากเดิม จึงต้องการผ่าตัดแก้ไขให้สวยงาม
  5. การไม่พอใจในรูปทรงหรือขนาดเดิมที่เคยเสริมอยู่ในปัจจุบัน จึงต้องการผ่าตัดแก้ไขนม เพื่อเพิ่มขนาด – ลดขนาดซิลิโคน หรือเปลี่ยนรูปทรงของซิลิโคนใหม่
ที่มาสเตอร์พีชมีซิลิโคนเกรดพรีเมี่ยม แพทย์ที่ชำนาญการ ผลลัพธ์ดีสวยสมใจ

การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดแก้หน้าอก

  • แจ้งให้แพทย์ทราบข้อมูลโรคประจำตัว ยาโรคประจำตัว, ประวัติการผ่าตัด, ประวัติการแพ้ยา, ประวัติการแพ้อาหาร (หากมีประวัติการรักษาจากโรงพยาบาล ควรนำมาในวันปรึกษาด้วย) หรือแจ้งก่อนวันจองคิวผ่าตัด
  • ผู้ป่วยที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID หรือยาโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการผ่าตัดหรือแจ้งก่อนวันจองคิวผ่าตัด
  • งดทานวิตามินอาหารเสริมต่าง ๆ ทุกชนิด เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา, ใบแปะก๊วย เมล็ดองุ่น โสม ฯลฯ ต้องหยุดยาอย่างน้อย 1 เดือน
  • งดดื่มน้ำ งดรับประทานอาหารทุกชนิดก่อนผ่าตัด 8 ชั่วโมง*
  • ควรสระผมให้สะอาดเรียบร้อยก่อนวันผ่าตัด และไม่แต่งหน้าในวันผ่าตัด งดใส่คอนแทคเลนส์ในวันผ่าตัด หากมีปัญหาด้านสายตาให้สวมแว่นสายตาแทน
  • งดใส่เครื่องประดับทุกชนิด เช่น ต่างหู สร้อย แหวน จิลต่าง ๆ บนร่างกายในวันผ่าตัด (หากถอดออกไม่ได้ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ)
  • งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด เนื่องจากสารที่อยู่ในบุหรี่มีผลลดปริมาณออกซิเจนในเลือดและทำลายเซลล์ที่จะซ่อมแซมการหายของแผล มีผลทำให้เลือดที่จะมาหล่อเลี้ยงบริเวณที่ผ่าตัดลดลง โดยมีโอกาสให้ผิวหนังที่ผ่าตัดขาดออกซิเจน ทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 วันก่อนผ่าตัด และต่อเนื่องอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
  • ก่อนการผ่าตัด คนไข้ต้องทำความสะอาดเล็บมือเล็บเท้าให้สะอาด งดการทาเล็บมือ, เล็บเท้า และงดการต่อเล็บทุกชนิด
  • คนไข้ต้องเข้ามาทำการตรวจเลือดที่โรงพยาบาล อย่างน้อย 5-7 วันก่อนการผ่าตัด (กรณีไม่สะดวกเข้ามาเจาะเลือดที่รพ.สามารถส่งผลตรวจเลือดมาได้)
  • กรณีคนไข้ที่มีอายุเกิน 45 ปี ต้องมีผลตรวจสุขภาพและใบรับรองแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด (ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์)
  • เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป และควรทราบว่าหลังผ่าตัดย่อมเกิดการบวมช้ำบริเวณแผล และการเปลี่ยนแปลงของใบหน้า หรือบริเวณร่างกายที่ทำการผ่าตัด ซึ่งต้องใช้เวลาในการหายของแผลหรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่

การดูแลหลังผ่าตัด

  1. ห้ามไม่ให้แผลผ่าตัดโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม หรือหากโดนน้ำควรซับให้แห้งทุกครั้ง
  2. หลังการผ่าตัดแพทย์จะนัดเข้ามาตัดไหม 7 วัน หรือ 14 วัน (ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน) โดยสามารถทำความสะอาดแผลด้วยการเช็ดด้วยเบตาดีน หรือน้ำเกลือสะอาด วันละ 1 – 2 ครั้ง เช้า – เย็น
  3. ควรนอนยกศีรษะสูง และควรนอนในท่านอนหงาย ไม่ควรนอนตะแคงหรือนอนคว่ำในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด เนื่องจากท่าหนอนหงายจะทำให้ถุงซิลิโคนอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
  4. ไม่ควรยกของหนักเกิน 1 กก. ใน 3 สัปดาห์แรก และสามารถขับรถได้หลัง 1 สัปดาห์ไปแล้ว
  5. ต้องสวมใส่ Support Bra หลังผ่าตัดเสริมหน้าอก ประมาณ 1 เดือนขึ้นไป
  6. งดออกกำลังกายในช่วง 3-4 สัปดาห์แรก เนื่องจากยังเป็นช่วงที่ทำให้เลือดออกได้ และสามารถออกกำลังกายได้ปกติ หลังผ่าตัดประมาณ 1 เดือน
  7. สามารถทายาลดรอยแผลเป็นได้ หลังจากแผลผ่าตัดหายสนิทดีแล้วจะทำให้แผลเป็นจางเร็วขึ้น (ควรปรึกษาแพทย์)
ไฟบริน Fibrin Masterpiece Hospital สำหรับการผ่าตัดเสริมหน้าอก ช่วยแผลหายไว ลดอาการบาดเจ็บ
ข้อดี เสริมหน้าอก ส่องกล้องคือลดความเสียหายของเส้นประสาท ผ่าได้แม่นยำ ลดโอกาสการบาดเจ็บจากการผ่าตัด
การส่องกล่องผ่าตัดเสริมหน้าอก

รีวิวจากผู้ใช้บริการ

รีวิวแก้ไขหน้าอกทำใหม่เต่งตึง กลมสวยอ่อนวัย
รีวิว แก้ไขหน้าอกหน้าก่อนหน้าเป็นรูปซิลิโคนให้สวยเนียนเป็นธรรมชาติ
รีวิว แก้ไขหน้าอกให้ดูมโดดเด่น
รีวิว แก้ไขหน้าอกให้เต่งตึงเป็นธรรมชาติ
แชร์เลย: