คางสั้น คางตัด คางถอย คืออะไร? แก้อย่างไรได้บ้าง
ปัญหาคางสั้น คางตัด หรือคางถอย มักมีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรมของแต่ละบุคคล สามารถส่งผลทำต่อใบหน้า เช่นหน้าไม่สมส่วน หรือโครงสร้างใบหน้าดูกลม และสั้นจนทำให้สูญเสียความมั่นใจ จึงทำให้คนไข้เลือกเข้ารับคำปรึกษา เพื่อทำการผ่าตัดศัลยกรรมปรับโครงหน้า ให้ดูเรียว และสมมาตรมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีแนวทางการรักษาอะไรอีกบ้าง และแก้ไขอย่างไรถึงเหมาะที่สุดไปหาคำตอบพร้อมกันในบทความได้เลย
คางสั้น คางตัด เกิดจากอะไร?
สำหรับคนไข้ที่มีลักษณะคางผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็น คางสั้น คางตัด คางถอย หรือคางบุ๋ม มักเป็นผลมาจากกรรมพันธ์ุที่ถูกส่งผลต่อกันมา และยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลได้เช่นกัน มีสาเหตุอะไรบ้างไปดูกัน
- กระดูกคางสั้น
สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่กำเนิด เป็นผลมาจากพันธุกรรมของแต่ละบุคคล ที่ทำให้กระดูกบริเวณคางสั้นกว่าปกติ จนอาจทำให้โครงสร้างใบหน้าดูกลม ไม่มีรูปทรงสัดส่วนที่ชัดเจน
- ไขมันสะสมบริเวณแก้ม
คนไข้ที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้มจำนวนมาก อาจส่งผลทำให้โครงสร้างใบหน้าโดยรวมดูกลมใหญ่ และทำให้คางดูสั้นลงได้ด้วย
- กล้ามเนื้อหดเกร็ง
บนใบหน้าของคนไข้จะมีกล้ามเนื้อที่ชื่อว่า “mentalis” ซึ่งจะอยู่บริเวณคาง เมื่อใดที่กล้ามเนื้อส่วนนี้มีการหด หรือเกร็งอาจทำให้เกิดก้อนแข็ง 2 ก้อนที่คางได้ สามารถส่งผลทำให้คางมีผิวไม่เรียบเนียนเป็นคลื่น หรือที่เรียกว่าคางบุ๋มได้
- กระดูกส่วนล่าง หรือขากรรไกรมีความผิดปกติ
ปัญหาคางถอย เป็นผลมาจากกระดูกส่วนล่าง หรือขากรรไกรทำงานผิดปกติ อาจทำให้โครงสร้างบริเวณคางเข้าด้านใน จนส่งผลทำให้โครงสร้างใบหน้าส่วนใหญ่ไม่ได้สัดส่วน ผิดรูปทรง ฟันดูยื่น หรือไม่สบกันรวมถึงปากดูอูมจนผิดสังเกต
ลักษณะคางสั้น คางถอย คางตัด ส่งผลกับใบหน้าอย่างไร
รูปทรงของคางที่มีปัญหานั้นมีหลายลักษณะ เช่นคางสั้น, คางถอย, คางตัด, คางบุ๋ม ซึ่งส่งผลกระทบกับใบหน้าแตกต่างกันออกไป โดยแต่ละรูปแบบส่งผลต่อโครงสร้างใบหน้าดังนี้
- คางสั้น
คนไข้ที่มีลักษณะคางสั้น ส่วนมากจะทำให้ใบหน้าดูกลม หรือมีรูปทรงสี่เหลี่ยม สามารถส่งผลทำให้ขาดความมั่นใจได้ง่าย จากผลกระทบต่าง ๆ เช่นการบูลลี่, การเลือกใช้เสื้อผ้าที่เหมาะสม, การแต่งหน้า และการเลือกทรงผม โดยสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้คางสั้นเกิดขึ้นจากพันธุกรรมที่ถูกส่งต่อมา
- คางถอย
คนไข้ที่มีลักษณะคางถอย เป็นผลมาจากการทำงานผิดปกติของขากรรไกร และกระดูกส่วนล่างของใบหน้าผิดรูป ซึ่งส่งผลกระทบได้หลายอย่าง เช่น ฟันยื่น หรือฟันไม่สบกัน ปากดูอูม ใบหน้าดูไม่สมส่วน เป็นต้น
- คางตัด
คนไข้ที่มีลักษณะคางตัด บริเวณปลายคางจะดูไม่เรียว ไม่มีความมน เป็นผลมาจากไม่มีกระดูก หรือกล้ามเนื้อที่ทำให้ใบหน้าได้สัดส่วน แต่จะเป็นคางทื่อ ๆ ที่ตัดตรง อาจทำให้โครงสร้างใบหน้าดูแข็ง หรือมีรูปทรงหน้าเหลี่ยมที่ชัดเจน
- คางบุ๋ม
คนไข้ที่มีลักษณะคางบุ๋ม ผิวบริเวณปลายคางจะไม่เรียบเนียน มีสัมผัสเป็นคลื่น และมีร่องตรงกลางที่เด่นชัด รวมถึงคางทั้ง 2 ข้างอาจดูไม่เท่ากันอีกด้วย เมื่อแสดงออกทางสีหน้าจะยิ่งเห็นรอยบุ๋มชัดกว่าเดิม
ปัญหาคางต่าง ๆ สามารถส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของแต่ละคนได้ไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละบุคคล สำหรับคนที่มีความกังวลใจ หรือรู้สึกไม่พึงพอใจในใบหน้า สามารถเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อทำการประเมินปัญหา และวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
วิธีเช็คว่าคุณมีลักษณะคางสั้น คางตัด หรือไม่
วิธีการเช็คว่ามีลักษณะคางสั้น คางตัดหรือไม่นั้น สังเกตไม่ยากสามารถเช็คได้ง่าย ๆ จาก 3 ตำแหน่งบนใบหน้า ดังนี้
- บริเวณหน้าผากส่วนบนไปจนถึงคิ้ว
- บริเวณหัวคิ้วถึงปลายจมูก
- ตั้งแต่ปลายจมูกไปถึงปลายคาง
ซึ่งทั้ง 3 ตำแหน่งที่กล่าวมาจะมีขนาดที่ใกล้เคียงกัน หากบริเวณปลายจมูกถึงคาง มีความสั้นกว่าตำแหน่งอื่น นั้นอาจหมายความว่ามีลักษณะคางสั้นนั่นเอง เพื่อให้โครงหน้ามีขนาดเท่ากัน และได้สัดส่วน
ปัญหาคางตัด คางสั้น คางถอย จะพบได้ในคนกลุ่มไหนบ้าง
แม้ว่าปัญหาคางตัด, คางสั้น, คางถอย จะมีพันธุกรรมเป็นส่วนเกี่ยวข้อง แต่ยังมีกลุ่มคนอีกบางประเภทที่ทำให้เกิดคางในลักษณะเดียวกันได้ดังต่อไปนี้
- คนที่มีไขมันสะสมบนใบหน้าในปริมาณมาก อาจส่งผลทำให้คางผิดรูปทรงได้
- คนที่เคยเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือได้รับการกระแทกบริเวณใบหน้า อาจส่งผลทำให้โครงสร้างใบหน้าผิดปกติได้
- คนที่เคยฉีดฟิลเลอร์ปลอม แล้วพบปัญหาฟิลเลอร์ไหล หรือรวมเป็นก้อนบริเวณคาง
- คนที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน อาจทำให้มีไขมันบริเวณแก้ม หรือมีปัญหาแก้มย้อย จนทำให้ใบหน้าผิดรูป ดูไม่มีมิติ
วิธีแก้ไขปัญหาคางสั้น คางถอย คางตัด
วิธีแก้ไขปัญหาคางสั้น, คางถอย, คางตัด มีอยู่หลาย คนไข้สามารถเลือกและตัดสินใจได้ตามความต้องการ แต่ถ้าหากไม่แน่ใจว่ารักษาแบบไหนจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี และมีประสิทธิภาพ สามารถเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ก่อน เนื่องจากแพทย์จะช่วยประเมินปัญหา และหาแนวทางรักษาที่เหมาะสมได้ ส่วนวิธีการแก้ไขปัญหาคางลักษณะต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมมีดังนี้
การฉีดฟิลเลอร์คาง
ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยารูลอนิกแอซิด (HA) ที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ฉีดได้ทั่วใบหน้า หากมีปัญหาคางสั้น, คางตัด, คางบุ๋ม สามารถฉีดฟิลเลอร์คางได้ จะช่วยให้ใบหน้าได้สัดส่วน คางดูเรียวสวย เรียบเนียน แบบไม่ต้องผ่าตัด และปลอดภัย เนื่องจากฟิลเลอร์สามารถสลายไปได้เองมีอายุอยู่ประมาณ 1 – 2 ปี(ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นที่นำมาฉีด) และไม่มีสารตกค้างภายในร่างกาย
ศัลยกรรมปรับโครงหน้า
การศัลยกรรมโครงหน้า หรือผ่าตัดเสริมคางนั้น จะช่วยทำให้ใบหน้าได้สัดส่วน ดูเรียวมีมิติมากขึ้น และยังสามารถปรับรูปทรงให้เหมาะกับใบหน้าแต่ละบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงแก้ปัญหาคางบุ๋ม, คางตัด, คางสั้น, คางถอย ได้แบบถาวร เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ทันที แต่อาจจะต้องพักฟื้นร่างกาย และดูแลความสะอาดของแผลอย่างสม่ำเสมอจนกว่าจะหายเป็นปกติ
การเตรียมตัวก่อนเข้าศัลยกรรมผ่าตัด
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการศัลยกรรมผ่าตัดคาง แพทย์จะเป็นผู้อธิบายรายละเอียดต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจนให้คนไข้ปฏิบัติตามแบบเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยง และอาการแทรกซ้อนระหว่างผ่าตัด โดยมีคำแนะนำที่ควรทำดังนี้
- งดการใช้ยาแอสไพริน วิตามิน หรือยาที่อยู่กลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์
- งดการรับประทานอาหาร และเครื่องดื่มทุกชนิดอย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการสำลักเศษอาหารที่หลอดลม
- ควรแจ้งประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว หรือยาที่ใช้อยู่เป็นประจำ เพื่อให้แพทย์ได้ตรวจสอบก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมคาง
- ควรแปรงฟัน หรือบ้วนปากให้สะอาดก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย
- งดการดื่มแอกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ เนื่องจากอาจทำให้แผลผ่าตัดติดเชื้อได้
- ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่หลวมสบายตัว หรือเสื้อติดกระดุม เพื่อป้องกันการเสียดสีแผลหลังผ่าตัด
การดูแลตนเองหลังผ่าตัด
สำหรับการดูตนเองหลังผ่าตัด เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดจึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือกับคนไข้เป็นหลัก โดยแพทย์จะแนะนำข้อมูลที่มีประโยชน์ในช่วงพักฟื้นร่างกายดังต่อไปนี้
- แนะนำให้นอนหมอนสูงกว่าปกติ หรือใช้หมอนรองคออย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการกดทับบริเวณคาง
- แนะนำให้รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด จนกว่าจะหมด หรือแผลหายเป็นปกติ
- แนะนำให้ประคบเย็นบริเวณรอบ ๆ แผลผ่าตัดในช่วง 3 วันแรก เพื่อลดอาการบวมช้ำ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ส่งผลกระทบบริเวณใบหน้า หรือคาง อย่างน้อย 1 เดือน
- แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อน เช่นโจ๊ก ข้าวต้ม ซุป เพื่อป้องกันการใช้กราม และลดปริมาณการเคี้ยวในช่วงแรก
- ควรบ้วนปาก หรือทำความสะอาดช่องปากทุกครั้ง เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ
- งดการสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากอาจส่งผลทำให้แผลหายได้ช้ากว่าปกติ
- หลีกเลี่ยงของหมักดอง อาหารทะเล ของแปรรูป หรืออาหารรสจัดอย่างน้อย 1 เดือน เพราะอาจทำให้แผลผ่าตัดติดเชื้อได้
คางสั้น คางถอย คางตัด แก้ปัญหาได้ด้วยการเสริมคาง
ใครที่มีปัญหา คางสั้น, คางถอย, คางตัด แต่ไม่อยากผ่าตัดทำได้ไหม? ซึ่งการเสริมคางมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมคางด้วยซิลิโคน หรือการเลื่อนคาง อย่างไรก็ตาม การเสริมคางขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องให้แพทย์วินิจฉัยก่อนจะทำหัตถการ โดยการเสริมคางจำเป็นจะต้องมีการปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อจะทำให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาและวางแผนการรักษาได้ตรงกับบุคคลมากที่สุด ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้เป็นไปตามที่ต้องการ
ปรึกษาการปัญหา คางสั้น คางตัด คางถอย มาสเตอร์พีช ?
ปัญหาคางสั้น คางตัด, คางถอย เป็นปัญหาต่อใบหน้าที่ทำให้ขาดความมั่นใจ โดยมีสาเหตุหลักๆ มาจากพันธุกรรม การรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์คาง หรือศัลยกรรมปรับโครงหน้า จึงได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะช่วยให้หน้าเรียวเล็กดูละมุน และมีสัดส่วนที่ชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตามแนะนำให้เข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ก่อน เนื่องจากแพทย์จะวิเคราะห์ปัญหา และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมให้กับแต่ละบุคคลได้อย่างละเอียด สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช