รอยตีนกา เกิดจากอะไร ทำยังไงให้ตีนกาลดลง

masterpiece

วันที่อัพเดตล่าสุด: 17 October 2024

ตีนกา เป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญเมื่ออายุมากขึ้น เนื่องจากสภาพผิวจะมีความเสื่อมลง เมื่อยิ้มหรือหัวเราะ จะเกิดรอยพับ รอยขีดบริเวณใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากขึ้น โทรม ไม่สดใส ส่วนใหญ่จะพบบริเวณที่โดนแสงแดดมาก เช่น ใบหน้า ลำคอ หลังมือ แขน เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลต่อความมั่นใจ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน มีแนวทางในการลดรอยตีนกา หรือรักษาตีนกาให้หายได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นวิธีธรรมชาติ หรือแม้กระทั่งการทำหัตถการ ในวันนี้มาสเตอร์พีชจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับรอยตีนกา ว่าสาเหตุหลักเกิดจากอะไร มีเทคนิคที่ช่วยปกปิดรอยตีนกาได้อย่างไรบ้าง และถ้าอยากจะรักษาตีนกาให้หายไปจากใบหน้าสามารถทำได้อย่างไร มาดูไปพร้อมกันได้เลย

รอยตีนกา คืออะไร ?

รอยตีนกา คือ ริ้วรอยที่เกิดขึ้นบริเวณหางตา ในลักษณะของรอยขีด ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น จนทำให้สภาพผิวมีความเสื่อมลง รอยตีนกาจะเห็นชัดเมื่อยิ้ม หัวเราะ หรือมีความเครียด โดยรอยตีนกาสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

  • ตีนกาชนิดตื้น (Dynamic Line) เป็นรอยตีนกาที่เกิดจากผิวบริเวณหนังกำพร้ามีความบางและโดดแดดมาก ทำให้เกิดรอยตีนกาขึ้น โดยลักษณะของตีนกาจะเป็นริ้วรอยที่ไม่ชัด และไม่ลึกมาก
  • ตีนกาชนิดลึก (Static Line) เป็นรอยตีนกาที่มีผลมาจากรอยตีนกาชนิดตื้นที่ไม่ได้รับการดูแลรักษา ทำให้ลึกและชัดขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากความหย่อนคล้อยของโครงสร้างผิวในชั้นหนังแท้

รอยตีนกา ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อสุขภาพ แต่จะส่งผลต่อความมั่นใจและความสวยงาม เพราะจะทำให้หน้าดูโทรม ดูมีอายุ ดังนั้น จึงควรมีการทาครีมบำรุงและดูแลใบหน้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดรอยตีนกาลึก เพราะเมื่อเป็นตีนกาชนิดลึก จะไม่สามารถรักษาได้ และจำเป็นต้องทำหัตถการเพื่อรักษา

สาเหตุการมีรอยตีนกา

สาเหตุหลักของการเกิดรอยตีนกา เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้สภาพผิวมีความเสื่อมลง อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากปัจจัยเรื่องอายุ ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้ตีนกาบนใบหน้าเพิ่มมากขึ้น จะมีสาเหตุอะไรบ้าง ไปดูกันได้เลย

  • อายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจะผลิตอีลาสตินและคอลลาเจนในผิวได้น้อยลง ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น และอ่อนแอลง มีรอยตีนกาเกิดขึ้นได้
  • แสงแดดและมลภาวะ สภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เกิดรอยตีนกาบนใบหน้าได้ เนื่องจากแสงแดดหรือมลภาวะต่าง ๆ เร่งให้ผิวอ่อนแอและเสื่อมสภาพลง จนเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่าย โดยเฉพาะแสง UV จะทำร้ายถึงชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวคล้ำเสีย เกิดรอยตีนกา รอยฝ้า รวมถึงรอยกระอีกด้วย
  • การแสดงออกทางสีหน้า ไม่ว่าจะเป็นการยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ ทุก ๆ อารมณ์ที่เกิดขึ้นบนใบหน้า ล้วนทำให้เกิดรอยพับหรือรอยย่นได้
  • พันธุกรรม เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยตีนกา เนื่องจากบางคนอาจเกิดรอยตีนกาไวกว่าคนอื่น ซึ่งเป็นผลมาจากพันธุกรรม
  • ความเครียด เมื่อร่างกายเครียดจะหลั่งฮอร์โมน Cortisal ออกมา กระตุ้นให้เกิดสารอนุมูลอิสระ ซึ่งจะทำลายความแข็งแรงของเซลล์ผิว และเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยได้
  • การพักผ่อน การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายหลั่งโกรทฮอร์โมนที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวในร่างกายได้น้อยลง ทำให้หน้าโทรม และดูไม่สดใส
  • การสูบบุหรี่ เนื่องจากในบุหรี่มีสารนิโคติน ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินลดลง จนผิวดูหมองคล้ำ หน้าโทรม เกิดรอยตีนกาก่อนวัย

อายุเท่าไหร่มักพบรอยตีนกา

ตามปกติแล้วรอยตีนกามักจะพบในช่วงอายุ 35 ปีขึ้นไป เนื่องจากผิวหนังเสื่อมสภาพลง และขาดความชุ่มชื้น อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีก็อาจเกิดรอยตีนกาก่อนหน้านั้นได้ ซึ่งอาจเกิดจากพันธุกรรมหรือพฤติกรรมของแต่ละบุคคล เช่น สูบบุหรี่จัด ดื่มแอลกอฮอล์ นอนดึก หรือแม้กระทั่งโดนแดดบ่อย โดยที่ไม่ป้องกัน ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้เกิดรอยตีนกาได้

ตีนกามีตำแหน่งไหนบ้างบนใบหน้า

รอยตีนกาบนใบหน้า สามารถพบได้หลายตำแหน่ง โดยตำแหน่งที่จะพบได้ส่วนใหญ่ มีดังนี้

  • ตีนกาหน้าผาก ซึ่งเป็นรอยที่จะเกิดจากการแสดงสีหน้า เช่น การเลิกคิ้ว
  • ตีนกาใต้ตา หรือ รอบดวงตา เป็นรอยที่จะเกิดจากการยิ้มหรือหัวเราะ ซึ่งการแสดงอารมณ์เหล่านี้จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณดวงตาหดจนเกิดรอยตีนกาอย่างเห็นได้ชัด
  • ตีนกาหัวคิ้ว โดยรอยตีนกาบริเวณนี้จะเกิดจากการขมวดคิ้วเป็นประจำ
  • ตีนการ่องแก้มหรือมุมปาก ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณร่องแก้มหรือมุมปากถูกใช้งานบ่อย ส่วนใหญ่จะเกิดจากการยิ้ม
  • ตีนกาสันจมูก ตีนกาบริเวณนี้อาจเกิดจากการย่นจมูก จากอาการภูมิแพ้ ขยี้จมูกแรง ๆ หรือแม้กระทั่งความเครียด

เทคนิคการปกปิดรอยตีนกา

สำหรับใครที่มีรอยตีนกาเกิดขึ้นบนใบหน้า แต่ยังไม่พร้อมที่จะทำหัตถการเพื่อแก้ไขรอยตีนกา อาจใช้วิธีการปกปิดตีนกาเบื้องต้น ซึ่งมาสเตอร์พีชได้รวบรวมเทคนิคการปกปิดรอยตีนกามาให้แล้ว ดังนี้

  • เลือกใช้ลิปสติกสีที่โดดเด่น เพื่อดึงจุดโฟกัสมายังบริเวณริมฝีปาก ทำให้คนสนใจตีนกาบนใบหน้าน้อยลง
  • ใช้ Moisturizer เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ทำให้บริเวณผิวที่เคยแห้งได้รับความชุ่มชื้นกลับคืนมา และทำให้รอยตีนกาจางลง
  • มีการใช้ Primer ในการแต่งหน้า เนื่องจากในเนื้อของ Primer มีซิลิโคน ซึ่งจะช่วยปกปิดรอยตีนกาได้บางส่วน ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
  • เลี่ยงการใช้แป้งฝุ่น เพราะแป้งฝุ่นจะทำให้มีการเกาะตัว และเห็นรอยตีนกาชัดขึ้น
  • เขียนขอบตาบนด้วยอายไลน์เนอร์ แต่ไม่ควรลากเส้นยาวเกินขอบตา เพราะอายไลน์เนอร์อาจตกเข้าไปในร่องตีนกาได้

อย่างไรก็ตาม การปกปิดรอยตีนกาด้วยการแต่งหน้า เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ดังนั้น ในระยะยาว จึงควรมีการใช้ครีมบำรุงเพื่อลดรอยตีนกา หรืออาจมีการทำหัตถการเพื่อให้รอยตีนกาหายไปจากใบหน้าอย่างถาวร

วิธีรักษาตีนกา ลดรอยตีนกา ได้อย่างไร

การรักษาตีนกา สามารถทำได้หลายวิธี ทั้งวิธีธรรมชาติ และการทำหัตถการ โดยมีดังนี้

  1. ทากันแดดสม่ำเสมอ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดตีนกาบนใบหน้า คือการที่ผิวได้รับแสง UV จากแดดโดยไม่ได้รับการป้องกัน ดังนั้น แนวทางการรักษาตีนกาเบื้องต้น คือการทาครีมกันแดด โดยแนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป เพื่อเป็นการปกป้องผิว และลดรอยตีนกาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
  2. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต พฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคน เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดรอยตีนกาขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้ผิวมีความเสื่อมลงก่อนไว จนเกิดรอยตีนกาบนใบหน้า ถ้าหากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ก็จะสามารถลดรอยตีนกาได้
  3. เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว การใช้ Moisturizer อย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ผิวสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ ช่วยลดริ้วรอย ทั้งยังทำให้ดูอ่อนเยาว์ ช่วยรักษารอยตีนกาให้ลดลง
  4. ทำทรีตเมนต์และสครับผิว การทำทรีตเมนต์และสครับผิว เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการลดตีนกาที่สามารถทำได้เอง โดยการทำอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ริ้วรอยลดลงได้ จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายออก ทำให้ผิวชุ่มชื้นและสุขภาพดียิ่งขึ้น
  5. ฉีดฟิลเลอร์ การฉีดฟิลเลอร์ เป็นหนึ่งในการทำหัตถการที่จะช่วยแก้ไขรอยตีนกาที่ฝังลึกบนใบหน้า เหมาะสำหรับคนที่มีตีนกาเป็นร่องลึก โดยฟิลเลอร์จะเข้าไปเสริมผิวชั้นลึก ทำให้ผิวกลับมาเต่งตึง นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ยังช่วยเรื่องของใต้ตาคล้ำ รวมถึงทำให้ใบหน้ากระชับขึ้นอีกด้วยยิงเลเซอร์
  6. การยิงเลเซอร์ นิยมใช้กับตีนกาที่ไม่ได้ลึกมาก โดยจะเป็นการยิงพลังงานลงไปที่ผิวซ้ำ ๆ ซึ่งตัวพลังงานจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างอิลาสตินและคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้รอยตีนกาค่อย ๆ จางลง อย่างไรก็ตาม การยิงเลเซอร์ควรใช้เครื่องที่ได้มาตรฐานและอยู่ในการดูแลของผู้ที่มีประสบการณ์เพื่อความปลอดภัย
  7. Hifu ลดตีนกา Hifu ลดรอยตีนกา เป็นการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวน์ ซึ่งพัฒนามาจากการอัลตราซาวน์ทารกในครรภ์ โดยจะยิงผ่านชั้นผิวบนใบหน้า ทำให้รอยตีนกาและริ้วรอยอื่น ๆ บนใบหน้าลดน้อยลง อย่างไรก็ตาม จำเป็นจะต้องใช้ระยะเวลาผ่านไปประมาณ 2-3 เดือน จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น
  8. Ulthera ลดตีนกา การใช้เครื่อง Ulthera ลดตีนกา คือการใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวน์เช่นเดียวกัน แต่การใช้เครื่อง Ulthera จะทำให้มีจุดโฟกัสพลังงานที่กว้างกว่า นอกจากจะช่วยเรื่องลดตีนกา ยังช่วยเรื่องหนังตาตกและกระชับกรอบหน้าได้อีกด้วย จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและแม่นยำ โดยใช้ระยะเวลา 2-3 เดือนเพื่อเห็นผลลัพธ์ชัดเจน
  9. ดึงหน้า (Face Lift) เป็นหัตถการที่ช่วยให้รอยตีนกาหายไป โดยใช้วิธีการผ่าตัดผิวหนังส่วนเกินที่มีความหย่อนคล้อย นอกจากจะแก้ปัญหารอยตีนกา การดึงหน้ายังช่วยแก้ปัญหาอื่น ๆ บนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นหนังตาตก กรอบหน้าไม่ชัด หรือใครที่ต้องการปรับเปลี่ยนโครงหน้า ก็สามารถทำได้ด้วยวิธีการนี้ นอกจากนี้การดึงหน้ายังไม่ได้ทิ้งรอยแผลเอาไว้บนใบหน้า เพราะมีเทคนิคที่สามารถซ่อนรอยแผลเอาไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนจะดึงหน้าควรมีการศึกษาอย่างละเอียด และเลือกโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาตามที่ต้องการมากที่สุด

ปรึกษาปัญหารอยตีนกา ที่มาสเตอร์พีช

รอยตีนกา ถือเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนต้องเผชิญเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ซึ่งแนวทางการแก้ไขก็มีแตกต่างกันออกไปตามแต่ละบุคคล สำหรับใครที่สนใจแก้ไขปัญหาตีนกาด้วยการดึงหน้า (Face lift) ทางโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช มีทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์พร้อมให้คำปรึกษา พร้อมทั้งเครื่องมือที่ทันสมัย และมาตรฐานโรงพยาบาล มั่นใจได้ว่าผลลัพธ์จะออกมาตรงตามความต้องการของคนไข้มากที่สุด และลดโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการทำหัตถการ ถ้าใครสนใจแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรับฟังแนวทางการรักษารอยตีนกา

แชร์เลย:

Similar Posts