ปลูกผม DHI เทคนิคทันสมัยเพื่อผมดกดำถาวร

ปลูกผม DHI เทคนิคทันสมัยเพื่อผมดกดำถาวร

เชื่อว่าปัญหาผมร่วงกรรมพันธุ์ ผมบางรวมถึงศีรษะล้าน ถือเป็นปัญหากวนใจของใครหลายคนอยู่ไม่น้อย เนื่องจากจะทำให้สูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีวิธีแก้ผมร่วงด้วยการผ่าตัดปลูกผมหลากหลายเทคนิค ซึ่ง “ปลูกผม DHI” ก็เป็นอีกเทคนิคปลูกผมถาวร ที่จะช่วยกำจัดปัญหากวนใจของคุณได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นการปลูกผมแบบไม่ต้องโกนผม และเป็นการปลูกผมไร้แผลเป็น ใช้ระยะเวลาพักฟื้นไม่นาน ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับการปลูกผมแบบ DHI ว่ามีหลักการทำงานยังไง มีขั้นตอนอย่างไร รวมถึงมีข้อปฏิบัติก่อนและหลังทำอย่างไรบ้าง

เข้าใจเทคนิค DHI คืออะไร? หลักการทำงาน

เข้าใจเทคนิค DHI คืออะไร?

ปลูกผม DHI (Direct Hair Implantation) คือเทคนิคปลูกผมที่พัฒนามาจากเทคนิคการปลูกผมแบบ FUE ซึ่งการปลูกผมด้วยเทคนิค DHI จะมีการใช้ปากกานำปลูก (Implanter Pen) เข้ามาช่วย จากเดิมการปลูกผมแบบ FUE แพทย์ที่ทำการผ่าตัดจะทำการเจาะรูเปิดเพื่อใส่ผมเข้าไปในบริเวณที่ต้องการปลูก และจะใช้ที่คีบหนีบกราฟผมแต่ละกราฟใส่ลงไปในรูที่เปิดไว้ แต่สำหรับเทคนิคการปลูกผมแบบ DHI จะใช้ปากกานำปลูกปักกราฟลงไปที่ศีรษะได้เลย ทำให้แพทย์ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเปิดรูแผล ช่วยลดปัญหารากและเส้นผมเสียหายจากการปลูก อีกทั้งหลังทำจะสังเกตเห็นว่าไม่มีจุดไข่ปลา และผมแน่นกว่าปกติอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การปลูกผม DHI เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น ในกรณีที่ถึงขั้นหัวล้าน จนไม่มีเส้นผมเลย แพทย์อาจแนะนำอาหารบำรุงผม หรือวิตามินบำรุงผม รวมถึงยาสระผมหลังปลูกผมมาใช้ร่วมด้วย เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น หรืออีกทางคือแพทย์อาจแนะนำเทคนิคปลูกผมรูปแบบอื่นที่เหมาะสมกว่า

ขั้นตอนการปลูกผม DHI

ขั้นตอนการปลูกผม DHI

การปลูกผม DHI เป็นการปลูกผมแบบไม่โกนผม และเป็นการปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งขั้นตอนการปลูกผมจะคล้ายกับเทคนิค FUE แต่จะแตกต่างกันในขั้นตอนการปลูกผมบริเวณด้านหน้า โดยมีขั้นตอนดังนี้

ปรึกษาหมอฟรี
  • เข้าพบแพทย์ เพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน รวมถึงให้แพทย์ประเมิน และออกแบบแนวเส้นผม โดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับรูปหน้าของคนไข้ มีการแนะนำข้อปฏิบัติต่าง ๆ ทั้งก่อนและหลังปลูกผม เพื่อเตรียมตัวก่อนปลูกผม
  • เมื่อเริ่มการผ่าตัดปลูกผม แพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะจุดบริเวณด้านหลังศีรษะ ทำให้คนไข้รู้ตัวตลอดเวลา หลังจากนั้นแพทย์จะเจาะเอากราฟผมบริเวณท้ายทอยออกมาเตรียมเพื่อทำการปลูกกลับ โดยคนไข้จะต้องนอนคว่ำประมาณ 2-4 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ในขณะทำคนไข้สามารถพักเบรคเข้าห้องน้ำได้ปกติ
  • หลังจากเจาะเอากราฟออกมา จะมาถึงขั้นตอนการสกัดกราฟ กราฟผมจะถูกนำมาคัดแยก โดยมีตั้งแต่ 1-4 เส้น และนำไปแช่เลี้ยงในสารละลายพิเศษ ซึ่งทำให้ผมขึ้นได้สูงถึง 95-98%
  • ถัดมาแพทย์จะฉีดยาชาเพิ่มเติมบริเวณด้านหน้า ซึ่งจะมีการใช้เครื่องมือ DHI โดยนำกราฟที่เตรียมไว้โหลดใส่ปากกานำปลูก และทำการปักกราฟลงทีละกราฟ การใช้ปากกาจะทำให้สามารถควบคุมองศาตามแนวไรผมเดิม รวมถึงปลูกได้ถี่และแน่นขึ้น ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาอีก 2-4 ชั่วโมง
  • หลังจากปลูกผม DHI เสร็จ คนไข้จะได้รับการฉายแสงจากเครื่อง Heallite ซึ่งเป็นเลเซอร์ความเข้มข้นต่ำที่มีส่วนช่วยกระตุ้นให้แผลหายเร็วขึ้น
  • หลังจากฉายแสงเสร็จ สามารถกลับบ้านได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องนอนพักที่โรงพยาบาล 1-2 วันหลังจากนั้น แพทย์จะนัดสระผมและฉายแสงอีกครั้ง แนะนำให้เข้าพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามความต้องการ และเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้น

เปรียบเทียบ DHI กับเทคนิคปลูกผมอื่นๆ

เปรียบเทียบ DHI กับเทคนิคปลูกผมอื่นๆ

เทคนิคการปลูกผมแบบ DHI ถือเป็นอีกเทคนิคที่ได้รับความนิยมไม่แพ้การปลูกผมแบบ FUE และการปลูกผม FUT ในวันนี้เราจึงจะมาเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างของเทคนิคเหล่านี้ รวมถึงเปรียบเทียบข้อแตกต่างในเรื่องของราคา เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสำหรับใครที่ต้องการปลูกผม

  • ปลูกผม DHI
    ปลูกผม DHI (Direct Hair Implantation) เป็นเทคนิคที่ใช้ปากกาพิเศษสำหรับฝังรากผมโดยตรงลงในบริเวณที่ต้องการ โดยไม่จำเป็นต้องสร้างร่องหรือใช้เทคนิคที่ทำให้แผลใหญ่ ข้อดีของเทคนิคนี้คือมีความแม่นยำสูง ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และใช้ระยะเวลาฟื้นตัวสั้นเพียง 2-3 วัน เนื่องจากปากแผลมีขนาดเล็กเพียง 0.6 – 0.8 มิลลิเมตรเท่านั้น บางคนหลังทำเสร็จอาจกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ทันที แต่มีข้อจำกัดคือราคาปลูกผม DHI จะค่อนข้างสูง อีกทั้งการปลูกอาจใช้ระยะเวลานาน เนื่องจากความละเอียดอ่อนในการทำงาน แพทย์จะต้องมีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ
  • ปลูกผม FUT
    การปลูกผมแบบ FUT (Follicular Unit Transplantation) เป็นเทคนิคปลูกผมที่จะเน้นการนำแถบผิวหนังที่มีรากผมจากหลังศีรษะหรือด้านข้างที่มีความหนาแน่นสูงมาใช้ ซึ่งรากผมเหล่านี้จะถูกแยกเป็นหน่วยเล็ก ๆ และปลูกในบริเวณที่ผมร่วงค่อนข้างหนัก ข้อดีของเทคนิคนี้คือมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าเทคนิคอื่น ๆ ช่วยปลูกผมได้จำนวนมาก เหมาะกับผู้ที่มีผมร่วงรุนแรง อีกทั้งยังเหมาะกับการปลูกผมขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของเทคนิคนี้คือการตัดผิวหนังออกจะทำให้มีรอยแผลเป็น อีกทั้งยังอาจมีความเจ็บปวด และต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนานหลายสัปดาห์
  • ปลูกผม FUE
    ปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นเทคนิคปลูกผมสมัยใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องตัดผ่าตัดเอาชั้นผิวหนังออก แต่เทคนิคนี้จะใช้เครื่องมือพิเศษในการเจาะเอาเฉพาะรากผมที่แข็งแรงที่สุดออกทีละกราฟ เพื่อนำไปปลูกด้านหน้าที่มีภาวะผมร่วง ผมบาง ซึ่งข้อดีของเทคนิคนี้คือ เจ็บปวดน้อย หรือแทบจะไม่รู้สึกเจ็บ รวมถึงมีรอยแผลเป็นน้อย และฟื้นตัวเร็ว ประมาณ 1-3 วันก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ และหลังจาก 7-10 วันก็จะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ แต่จำกัดคือการเอารากผมออกทีละกราฟจะใช้ระยะเวลานาน และมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

    จะเห็นว่าเทคนิคการปลูกผมต่าง ๆ มีข้อดีข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม การเลือกเทคนิคการปลูกผมใด ๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แพทย์เลือกเทคนิคการปลูกผมที่เหมาะสม และจะทำให้ได้รับผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ตรงตามความต้องการ สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการปลูกผมเบื้องต้น ทีมแพทย์โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช พร้อมให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่แผนก 3M โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช

การดูแลหลังปลูกผมถาวรด้วยเทคนิค DHI

การดูแลหลังปลูกผมถาวรด้วยเทคนิค DHI

สำหรับการดูแลหลังปลูกผม DHI ถือเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์จากการปลูกผมเป็นไปตามความต้องการ การสระผมหลังปลูกผม รวมถึงอาหารหลังปลูกผม ล้วนมีส่วนสำคัญ หลังจากปลูกผมจึงแนะนำให้มีการดูแลตัวเอง ดังนี้

  • งดสระผมบริเวณสะเก็ดแผลด้านหน้า และดูแลแผลให้แห้งและสะอาด ประมาณ 1 สัปดาห์ โดยหลังจากแผลแห้งสนิท และเคลียร์สะเก็ดแผลแล้ว แนะนำให้สระผมตามคำแนะนำของแพทย์ และงดเกาศีรษะแรง ๆรวมถึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อบำรุงเส้นผมให้แข็งแรงในระยะยาว
  • นอนยกศีรษะสูงประมาณ 45 องศา ในช่วง 2-3 วันแรก
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ ในช่วง 2 สัปดาห์แรก
  • งดแคะ แกะ เกา แผลปลูกผม เนื่องจากอาจมีการติดเชื้อได้
  • งดออกกำลังกาย ยกของหนัก รวมถึงหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ศีรษะกระทบกระเทือน 2-4 สัปดาห์
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น
  • มีการใช้อุปกรณ์ป้องกันศีรษะก่อนออกจากบ้าน เพื่อป้องกันฝุ่นและแสงแดด โดยต้องเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับจากทางโรงพยาบาล เพราะจะมีความโปร่ง และไม่อับ ไม่ควรใช้หมวกกันน็อคหรือหมวกทั่วไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดการกดทับได้
  • รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างครบถ้วน รวมถึงมีการทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ในกรณีที่มีอาการผิดปกติใด ๆ ควรเข้าพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษา

สรุป

สรุปการปลูกผมด้วยเทคนิค

สำหรับใครที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน การปลูกผมด้วยเทคนิค DHI อาจเป็นอีกทางเลือกของคุณ เพราะเป็นเทคนิครูปแบบใหม่ที่ช่วยลดขั้นตอนการทำลงได้ อีกทั้งยังมีความแม่นยำสูง ใช้ระยะเวลาพักฟื้นไม่นาน อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของเทคนิคนี้คือมีราคาที่ค่อนข้างสูง เบื้องต้นจึงแนะนำให้เข้าปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์พิจารณาปัญหาเส้นผม และเลือกเทคนิคที่เหมาะกับแต่ละคนมากที่สุด ถ้าสนใจเข้าปรึกษาแพทย์ ทีมแพทย์โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชพร้อมให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

แหล่งอ้างอิง

Direct Hair Transplantation: https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC3764754/

บทความโดย

เราคือโรงพยาบาลศัลยกรรมด้านความงามของประเทศไทยและเอเชีย มีความต้องการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเกี่ยวกับบริการศัลยกรรมด้านความงาม โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ดูแลคุณตั้งแต่การให้คำปรึกษาไปจนถึงหลังการผ่าตัด โดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ที่มีประสบการณ์สูง มอบบริการครบวงจรด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่สำคัญทุกอย่างดำเนินการภายใต้มาตรฐานการรักษาพยาบาล ของโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการให้บริการสถานพยาบาลระดับสากล AACI

ข้อมูลการติดต่อ
ตั้งอยู่ที่ 99/19 ถนนสุไขทัย แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300

แชร์เลย:
register