แก้ตาสองชั้น เปลี่ยนชั้นตาที่เคยพังให้กลับมาปังอีกครั้ง

การแก้ตาสองชั้น ใหม่มีด้วยกันอยู่หลายสาเหตุ อาจจะเกิดความผิดพลาดจากแพทย์ไม่มีประสบการณ์ในการศัลยกรรมดวงตา ทำให้ประเมินชั้นตาออกมาไม่สมดุล ไม่เหมาะสมกับคนไข้ หรือทำตาออกมาแล้วมีปัญหาตามมาภายหลัง หรือบางรายทำตามาแล้วไม่ถูกใจ จึงทำให้ต้องกลับมาแก้ซ้ำในภายหลัง วันนี้เราได้รวบรวมปัญหาที่พบบ่อยสำหรับคนที่เคยทำตาสองชั้นไปแล้วต้องกลับมาแก้ซ้ำ ๆ ขอแนะนำ Eye Surgery by Masterpiece

รวมปัญหาที่พบบ่อยหลังแก้ตาสองชั้น

แก้ตาสองชั้น เป็นการศัลยกรรมยอดนิยมที่สาว ๆ หลาย ๆ คนเลือกทำเป็นอันดับต้น ๆ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำออกมาแล้วสวยถูกใจ เคสที่ทำออกมาแล้วพังก็มีไม่น้อย ดังนั้นควรเลือกโรงพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ รวมไปถึงแพทย์ผู้มีประสบการณ์ก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะแพทย์จะเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับคนไข้มากที่สุด โดยปัญหาที่ใครหลาย ๆ คนที่เคยทำตาแล้วต้องกลับมาแก้ตาซ้ำ ๆ มีดังนี้

• ชั้นตามีขนาดไม่พอดี 

ทำตามาแล้วรู้สึกชั้นตาเล็กเกินไป มีชั้นตาที่ไม่ชัดเจน ชั้นตาดูหลบใน เมื่อเขียนอายไลน์เนอร์แล้ว มองไม่เห็น มีพื้นที่แต่งตาน้อย จนทำให้ต้องกลับมาแก้ตาสองชั้นใหม่ เนื่องจากชั้นตาที่เล็กเกินไปอาจเกิดจากช้ันตาส่วนเกินยังคงหลงเหลืออยู่ แพทย์ประเมินออกแบบชั้นตาไม่พอดีกับรูปทรงดวงตาของคนไข้ หรือผ่าตัดไขมันเปลือกตา และไขมันส่วนเกินของหนังตาน้อยเกินไป จึงทำให้ชั้นตาออกมาดูเล็ก

• ทำตาสองชั้นแบบเย็บจุด ไม่ได้ตัดหนังตาส่วนเกิน

การทำตาแบบเย็บจุดไม่ได้แก้ปัญหาไขมันส่วนเกิน เหมาะกับผู้ที่มีหนังตา และไขมันไม่หนา เพราะเทคนิคจะไม่ได้ตัดไขมันส่วนเกินออกแต่เป็นการเย็บ 3 จุด หากคนไข้มีหนังตาเยอะ เมื่อใช้เทคนิคนี้อาจทำให้หนังตาดูปูดบวมไม่สวย ชั้นตาตกลงมาเร็วหลังจากทำตามาได้ไม่นาน ควรเลือกใช้เทคนิคที่ทำการตัดหนังตาส่วนเกินร่วมกับการทำตาสองชั้น จะได้ชั้นตาที่ดูคมชัด และชั้นตาไม่กลับมาตกซ้ำอีกด้วย

• ตาสองชั้นไม่เท่ากัน

การที่ทำตาสองชั้นแล้ว แต่ชั้นตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน อาจเกิดได้จากความไม่มีประสบการณ์ของแพทย์ผ่าตัด หรือเลือกใช้เทคนิคไม่เหมาะสมกับคนไข้ ประเมินตัดหนังตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน จึงอาจทำให้มีหนังตาเหลืออยู่ บวกกับคนไข้มีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง แต่ไม่ได้รับการแก้ไขหลังทำจึงทำให้ชั้นตาออกมาไม่เท่ากันได้

• ทำตาสองชั้นแล้วตาลึกเกินไป

ชั้นตาลึกเกินไปทำให้ใบหน้าดูมีอายุ ชั้นตาดูสูงเกินไปไม่เป็นธรรมชาติ ตาปรือ ดูไม่สดใส เนื่องจากชั้นตาอยู่สูงจนเกินไป เกิดได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดนำไขมัน หรือกล้ามเนื้อตาออกมากเกินไป ต้องทำการเย็บชั้นตาใหม่ หรือปมไหมอยู่สูงจนเกินไป ขัดขวางการออกแรงของกล้ามเนื้อตา รวมไปถึงคนไข้มีเบ้าตาที่ลึกอยู่แล้วแต่ไม่ได้รับการแก้ไข

• ทำตาแล้วตาเป็นสามชั้น หรือซ้อนกันหลายชั้น

ตาสามชั้นมีลักษณะเป็นเส้นเล็ก ๆ หลาย ๆ เส้น หรือมีรอยพับบริเวณเปลือกตาหลายชั้น สาเหตุเกิดได้จากแพทย์ทำการเย็บชั้นตาให้สูง หรือเย็บชั้นตาไม่ถูกตำแหน่งรอยพับชั้นตา และต้องนำไขมันบางส่วนออกเพื่อเย็บให้ติดกับกล้ามเนื้อ แต่ได้ทำการนำไขมันเบ้าตาออกเยอะจนเกินไป หลังทำ 1 – 2 ปี มักจะกลายเป็นตาสามชั้น ดังนั้นแพทย์ควรมีการประเมินก่อนการผ่าตัดแก้ตา เพื่อไม่ให้เกิดชั้นตาซ้อนกันหลายชั้น

• ไม่มีรอยพับของชั้นตา

เกิดได้จากแพทย์เย็บชั้นตาไม่ถึงในตำแหน่งที่ทำให้เกิดชั้นตา จึงทำให้หลังทำตาสองชั้นไม่เกิดรอยพับชั้นตา เนื่องจากคนไข้บางรายจะมีเนื้อเยื่อบาง ๆ กั้นบริเวณชั้นกล้ามเนื้อตาเอาไว้ ถ้าหากแพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ จะไม่สามารถแยกเนื้อเยื่อบาง ๆ ที่กั้นระหว่างชั้นกล้ามเนื้อตาออกได้ และทำให้หลังทำตามีการเกาะของผิวหนังกับกล้ามเนื้อตาไม่ดีพอ จึงทำให้เห็นชั้นตาไม่ชัดเจน

• เกิดการระคายเคืองของดวงตา จากการทำตาสองชั้นแบบเย็บจุด

การเย็บตาแบบจุดแล้วเกิดอาการระคายเคือง จำเป็นต้องกลับมาแก้ตาเพื่อตัดปมเก่าออก แล้วเย็บชั้นตาใหม่ สาเหตุที่ทำให้เคืองเกิดได้จากเย็บชั้นตาตื้นจนเกินไป ทำให้ไหมที่ใช้ยึดชั้นตาโผล่ออกมา ทำให้รู้สึกไม่สบายตา เพราะดวงตาเกิดอาการระคายเคือง

• ขนตาปลิ้น

การทำตาสองชั้นแล้วเกิดภาวะขนตาปลิ้น ทำให้ไม่สามารถหลับตาได้สนิทส่งผลทำให้ตาแห้ง และเกิดรอยที่กระจกตา ควรเข้ามาแก้ตาให้ไวที่สุด เนื่องจากในช่วงแรกจะยังไม่เกิดพังพืดที่ชั้นตา และต้องทำการแก้ไขโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ โดยอาการขนตาปลิ้นเกิดได้จากการเย็บชั้นตาที่สูงจนเกินไป จนทำให้เกิดการพลิกของขนตา

• รอยแผลเป็นดูไม่ธรรมชาติ

การทำตาแล้วเห็นรอยแผลเป็น นูน แข็ง ชั้นตามีรอยบุ๋ม รอยย่น รอยพับชัดเจน เกิดได้ทั้งจากแพทย์เย็บแผลไม่ละเอียด ก็สามารถส่งผลต่อลักษณะของแผลเป็นได้เช่นกัน เพราะทำให้ผิวบริเวณเปลือกตาความบอบช้ำหลังผ่าตัด หรือสภาพผิวของคนไข้ล้วนแล้วแต่มีผลต่อรอยแผลเป็น บางคนเป็นคีลอยด์ง่าย ผิวบอบบางก็จะเห็นรอยแผลเป็นชัดเป็นพิเศษได้เช่นกัน ควรดูแลแผลตามคำแนะนำของแพทย์ และหมั่นทายาลดรอยแผลเป็นเป็นประจำ

• หางตาตก

ทำตาสองชั้นแล้วตายังตกดูเศร้าอยู่ เกิดได้จากการตัดแต่งหนังตาที่ไม่พอดี ทำให้บริเวณหางตายังมีเนื้อกองอยู่ เนื้อบริเวณหางตาจะไปเบียดหางตาให้ตก หรืออาจเกิดจากโครงสร้างกระดูกโค้งลง ส่งผลให้ดวงตาดูลู่ลงได้ ทั้งนี้หางตาตกส่งผลต่อโหงวเฮ้ง และความสวยงามของใบหน้า หลาย ๆ คนจึงมักกลับมาทำการแก้ตารอบที่สอง 

• เกิดพังผืดหลังจากการทำตาสองชั้น

การเกิดพังผืดจากการทำตาสองชั้นเป็นภาวะที่พบได้บ่อย เกิดจากการที่ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อพังผืดขึ้นมาบริเวณแผลผ่าตัด ซึ่งอาจทำให้แผลดูไม่เรียบเนียน หรือนูนขึ้น ภาวะนี้มักพบได้ในช่วง 2 – 3 เดือนแรกหลังการผ่าตัด และอาจค่อย ๆ ดีขึ้นตามระยะเวลา แต่หากภาวะนี้ไม่ดีขึ้น อาจต้องแก้ตาด้วยการผ่าตัดอีกครั้ง

• ชั้นตาหลุด

ปัญหาชั้นตาหลุดส่วนใหญ่มักพบกับผู้ที่ทำตาสองชั้นแบบเย็บจุด โดยอาจเกิดได้จากการเย็บปมไหมไม่แน่นพอ ทำให้หนังตาที่เย็บไว้ร่วงหลุดลงมาได้ หรือการเผลอขยี้ตาบ่อย ๆ ถ้าหากปล่อยไว้นานอาจทำให้เกิดภาวะหนังตาตกทับชั้นตา และเกิดปัญหาชั้นตาหลบในได้ หากพบปัญหาชั้นตาหลุดควรรีบเข้ามาแก้ตา

แก้ตาสองชั้นแล้วไม่สวยเป็นเพราะอะไร

การทำตาสองชั้นเป็นการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถทำให้ดวงตาดูมีชั้นตาที่คมชัดขึ้น ส่งผลให้ดวงตาดูสดใส และอ่อนเยาว์ลงมาก อย่างไรก็ตาม การทำตาสองชั้นก็อาจไม่ได้ออกมาสวยอย่างที่คาดหวังไว้เสมอไป สาเหตุที่ทำให้การทำตาสองชั้นไม่สวยต้องกลับมาแก้ตาอีกครั้งอาจเกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่

1. กรีดแผลสองข้างไม่เท่ากัน

หนึ่งในผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุดคือ แผลตาสองชั้นไม่เท่ากันสองข้าง ข้างนึงกรีดสูงไป ข้างนึงกรีดสั้นไปทำให้ทั้งสองข้างไม่มีความสมดุลกัน สาเหตุที่ทำให้แผลตาสองชั้นไม่เท่ากันสองข้างมีด้วยกันหลายปัจจัย ปัจจัยที่พบได้บ่อยที่สุดคือ แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดอาจไม่มีประสบการณ์มากพอ หรืออาจไม่เชี่ยวชาญในเทคนิคการทำตาสองชั้น ทำให้แผลตาสองชั้นไม่เท่ากันสองข้าง

2. เทคนิคการเย็บแผล

การเย็บแผลไม่ประณีต ก็ส่งผลทำให้ตาสองชั้นทั้งสองข้างไม่เท่ากันได้เช่นกัน ถึงแม้จะกรีดชั้นตาทั้งสองข้างเท่ากันแล้ว เพราะสามารถส่งผลต่อการดึงรั้งของแผลได้ จึงควรเลือกทำกับจักษุแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการผ่าตัดเท่านั้น

3. คำนวณไขมันที่นำออกมาไม่ดี

การทำตาสองชั้นเป็นปกติที่จะต้องนำไขมันเปลือกตาออกในบางส่วน เพื่อให้ชั้นตาสามารถเย็บติดกันได้ และเกิดเป็นชั้นพับตา หากคำนวณไขมันที่ต้องนำออกไปไม่ดี นำออกเยอะเกินไปหรือน้อยเกินไป ส่งผลให้ชั้นตาทั้งสองข้างดูไม่เท่ากันได้ หลังจากทำตาไปสักพักจะเกิดอาการเบ้าตาลึก หรือตามีสามชั้นตามมาได้ในภายหลัง

4. เลือกชั้นตาไม่เหมาะกับตนเอง

การเลือกชั้นตาให้เหมาะกับตนเองเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะต้องเข้ากับหน้า และกระดูกเบ้าตาถึงจะออกมาดูสวยและเป็นธรรมชาติ หากเลือกชั้นตาได้เข้ากับตนเองจะช่วยเสริมให้ใบหน้าดูสวยหวาน บางคนเลือกชั้นตาไม่เข้ากับตนเองทำให้หน้าดูแปลกไปเลย ทำให้ต้องกลับเข้ารับการผ่าตัดแก้ตาอีกครั้ง

5. เทคนิคการทำตาสองชั้นไม่เหมาะสม

การทำตาสองชั้นมีหลายเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นการกรีดสั้น กรีดยาว การเย็บสามจุด หรือการเปิดหัวตา – หางตา ล้วนแล้วแต่ละเทคนิคจะตอบโจทย์ปัญหาชั้นตาที่ต่างกันออกไปของคนไข้แต่ละคน โดยจะมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของผลลัพธ์ และสภาพผิวของคนไข้

อาการที่อาจพบได้หลังแก้ตาสองชั้น

1. อาการบวมช้ำ

อาการบวมช้ำหลังทำตาเป็นอาการปกติที่พบได้ทั่วไป มักเกิดขึ้นในช่วง 2 – 3 วันแรกหลังการผ่าตัด และอาการจะค่อย ๆ ยุบลงจนหายเป็นปกติภายใน 3 – 6 เดือน โดยความรุนแรงของอาการบวมช้ำจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เทคนิคการผ่าตัด สภาพร่างกายของผู้ป่วย และการดูแลหลังการผ่าตัด

2. ชั้นตาสองข้างไม่เท่ากันในช่วงแรก

อาการยุบบวมของตาทั้งสองข้างไม่เท่ากันเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับลักษณะพื้นผิวของแต่ละบุคคล โดยปกติอาการตาสองชั้นไม่เท่ากันหลังทำตาจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามเวลา แต่จะใช้เวลาประมาณ 3 – 6 เดือน จึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน หากหลังจาก 6 เดือนอาการตาสองชั้นไม่เท่ากันยังคงมีอยู่ แพทย์อาจพิจารณาทำการผ่าตัดแก้ตาใหม่อีกครั้ง

3. อาการหลับตาไม่สนิท

อาการหลับตาได้ไม่สนิทเล็กน้อยหลังผ่าตัดเป็นเพราะ อาการบวมของเปลือกตา ทำให้คนไข้ไม่สามารถหลับตาได้สนิทได้ เมื่ออาการบวมลดลง อาการหลับตาไม่สนิทจะค่อย ๆ หายไป หากมีอาการระคายเคืองแนะนำให้ใช้ยาหยอดตา หรือประคบร้อนเพื่อให้เปลือกตายุบบวมได้เร็วยิ่งขึ้น

4. อาการดึงรั้งบริเวณแผลและหัวตา

อาการดึงรั้งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้หลังทำตาสองชั้น เนื่องจากต้องทำการเย็บแผล เมื่ออาการบวมลดลง และชั้นตาเริ่มเข้าที่ ความรู้สึกดึงรั้งบริเวณตาจะค่อย ๆ หายไป อาการดึงรั้งบริเวณหัวตามักเกิดกับผู้ที่ทำการเปิดหัวตาร่วมกับการศัลยกรรมตาสองชั้น โดยสามารถนวดคลึงเบาๆเพื่อช่วยบรรเทาได้

5. อาการตาแห้ง น้ำตาไหล

อาการตาแห้งมักพบในคนไข้ที่มีอาการตาบวมมากจนทำให้ไม่สามารถหลับตาได้สนิท จึงทำให้ดวงตามีอาการระคายเคือง ควรสวมแว่นกันแดดเพื่อป้องกันฝุ่น และมลภาวะต่าง ๆ ที่เข้ามาสัมผัสกับดวงตาโดยตรง หรือใช้น้ำตาเทียมเพื่อลดอาการระคายเคืองของดวงตา

6. เลือดออกในเยื่อบุตา

เลือดออกในเยื่อบุตาขาว เกิดจากการแตกของเส้นเลือดฝอยใต้เยื่อบุตา เนื่องจากการเพิ่มของแรงดันในหลอดเลือดอย่างรวดเร็ว โดยพบได้ไม่บ่อยและสามารถหายได้เองภายใน 2 สัปดาห์ สามารถประคบเย็น หรือหยอดน้ำตาเทียมเพื่อช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองตาได้ หรือหากเป็นเยอะสามารถแจ้งแพทย์เพื่อสั่งยาช่วยลดอาการหดตัวของเส้นเลือดได้ดียิ่งขึ้น

7. มีอาการชาบริเวณเปลือกตา

อาการชาบริเวณเปลือกตาสามารถเกิดขึ้นได้ในบางราย เกิดจากการที่เส้นประสาทบริเวณนั้นถูกกระทบในระหว่างการผ่าตัด ทำให้ปลายประสาทรับความรู้สึกที่ผิวหนังได้ลดลง ซึ่งอาการชานี้มักจะหายไปเองภายใน 2 – 3 เดือน

8. ตากระตุก

อาการตากระตุกสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งเปลือกตาบน และเปลือกตาล่าง เกิดจากตาแห้งหลังการผ่าตัดในช่วงแรก หากตามีอาการแห้งสามารถใช้น้ำตาเทียมเพื่อช่วยบรรเทาได้ อาการตากระตุกไม่เป็นอันตราย และสามารถหายได้เองระยะเวลา 2 เดือนหลังทำการผ่าตัด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแก้ตาสองชั้น

แก้ตาสองชั้นต้องรอนานแค่ไหนถึงแก้ได้?

สำหรับผู้ที่มีปัญหาตาสองชั้น และต้องการแก้ไข สามารถทำได้หลังจาก 6 เดือนเป็นต้นไปเพื่อให้เนื้อเยื่อภายในดวงตาจากการผ่าตัดในครั้งแรกหายดีก่อนทำการแก้ไข

หลังทำตาบวมนานแค่ไหน?

อาการบวมเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ปกติหลังทำตา ระยะในการยุบบวมใช้เวลาไม่นาน โดยจะมีอาการบวมมากในช่วง 3 – 5 วันแรก หลังจากนั้นจะค่อยๆยุบบวมลงจนหายเป็นปกติภายใน 7 – 14 วันหลังผ่าตัด

ทำตาสองชั้นแล้วอยู่ได้นานเท่าไหร่?

ตาสองชั้นที่ทำสามารถอยู่ได้ตลอด เพียงแต่อาจมีอาการหย่อนคล้อยของหนังตามาปิดทับชั้นตาได้เมื่อมีอายุมากขึ้น ซึ่งการเกิดหนังตาตกนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และมีความแตกต่างกัน

รอยแผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัดตาสองชั้นจะจางหมดเมื่อไหร่?

หลังจากผ่าตัดแผลเป็นจะค่อย ๆ จางลงหลังจากการผ่าตัด 3 – 6 เดือน แนะนำให้ทายาลดรอยแผลเป็นอย่างสม่ำเสมอ หลังจากตัดไหม 3 วัน แผลเป็นจะยุบบวมลง และจางหายเรียบเนียนไปกับผิว

เคยทำตาแล้วชั้นตาไม่เท่ากัน สามารถแก้ไขได้มั้ย?

สามารถทำการแก้ไขได้ โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดเลาะพังผืดออก ร่วมกับการนำไขมันมาจัดเรียงบริเวณที่ชั้นตาดูสูงจนเกินไป แพทย์จะออกแบบชั้นตาให้ใหม่ และทำการปรับชั้นตาให้มีความเท่ากันมากขึ้น