ตาสองชั้น ที่ไม่ใช่แค่กรีดให้เป็นแผล แต่ต้องทำให้สวย ให้กลม ให้โต ให้แบ้ว
ทำตาสองชั้น ที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช จบทุกความกังวลเรื่องดวงตา ตาชั้นเดียว ตาไม่เท่ากัน ตาไม่แบ๊ว ตาไม่มีสเน่ห์ มาสเตอร์พีซช่วยได้ ดวงตาถือเป็นส่วนแรกที่ใครเห็นก็ต้องมอง ยิ่งมีชั้นตาชัดเจนกลมโตดูสดใส ยิ่งช่วยให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์มากขึ้นอีกระดับ โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชเห็นความสำคัญของดวงตาคุณ จึงมีบริการศัลยกรรมตาที่หลากหลายรูปแบบ เพื่อให้การศัลยกรรมตานั้นออกมาสวยงาม รับกับดวงตาทุกแบบ ทุกสไตล์ จบทุกปัญหาดวงตาได้ที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช
เทคนิคตาสองชั้นเปิดแผลเล็ก (SMALL INCISION DOUBLE EYES)
เทคนิคเปิดแผลเล็ก ถึงแม้ว่าเป็นการใช้วิธีการกรีดแต่ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ลักษณะพิเศษคือ ลายเส้นตาจะมีความบางคมแต่ยังดูไม่หลอกตา เหมาะกับคนที่ไม่ได้มีหนังตาเกินมากเกินไป
วิธีการผ่าตัดของเทคนิคแผลเล็กคือ การรวมข้อดีของวิธีการเย็บกับวิธีการกรีดเป็นหนึ่งเดียวในการใช้ผ่าตัด โดยการกรีดขนาดเล็กบริเวณเปลือกตาบน และทำการกำจัดไขมันหรือกล้ามเนื้อที่ไม่จำเป็นออกบางส่วน หลังจากนั้นจึงค่อยเย็บปิดแผล
เนื่องจากมีการเปิดแผลยาวประมาณ 1 ซม. เป็นเทคนิคแผลเล็ก (Small incision blepharoplasty) แม้จะมีไขมันอยู่แต่สามารถนำเอาออกมาและเย็บชั้นตาใหม่ สร้างลายเส้นตาให้เป็นสองชั้นแบบดูเป็นธรรมชาติ
ทั้งนี้ปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ควรเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อให้แพทย์ประเมินและแนะนำวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีแบบมากที่สุด
ทำตาสองชั้นแบบไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด
สำหรับวิธีทำตาสองชั้นยอดนิยมมี 2 วิธี ก็คือ การทำตาแบบกรีดสั้น และแบบกรีดยาว แล้วเราเหมาะกับแบบไหน แบบไหนดีกว่า ? การทราบถึงปัญหาชั้นตาตัวเองและพิจารณารูปแบบการผ่าตัดก่อนเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้วิธีผ่าตัดที่เหมาะสมที่สุดที่จะแก้ปัญหาชั้นตาของแต่ละคน ซึ่งจริง ๆ แล้วแต่ละวิธีการทำจะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ศัลยแพทย์ที่ดีควรจะสามารถทำได้ทุกวิธี และเลือกวิธีที่ดีที่สุดที่เหมาะกับแต่ละคน เรามาดูกันว่าการทำตาแบบกรีดสั้นและแบบกรีดยาว แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียอย่างไร
การทำตาแบบกรีดสั้น
เป็นการผ่าตัดโดยฉีดยาชาบริเวณชั้นตาก่อน จากนั้นจะกรีดช่วงกลางเปลือกตาบนประมาณ 1-2 เซนติเมตร และนำไขมันส่วนเกินบริเวณชั้นหนังตาออก แล้วจึงเย็บชั้นตา เป็นการผ่าตัดที่รบกวนต่อเนื้อเยื่อเปลือกตาน้อย ทำให้การบวมหลังผ่าตัดน้อยมาก
โดยการทำแบบกรีดสั้นจะเหมาะกับผู้ที่อายุน้อย เนื่องจากผิวหนังจะตึงกว่า การกรีดสั้นจะช่วยให้ได้ชั้นตาที่เป็นธรรมชาติมากกว่า นอกจากนี้ยังสามารถแก้ปัญหาในผู้ที่มีชั้นตาเล็ก ชั้นตาหลบใน ตาชั้นเดียว หรือตาไม่เท่ากัน โดยการทำแบบกรีดสั้น ได้ผลดีกับผู้มีไขมันบริเวณเปลือกตาน้อยและคนที่มีดวงตาเล็ก เป็นการเย็บเปลือกตา 2-3 จุด จึงใช้เวลาในการผ่าตัดน้อยกว่าการทำแบบกรีดยาว และใช้เวลาเพียง 30-45 นาที พักฟื้นไม่นาน หลังทำเสร็จสามารถกลับบ้านได้ทันที แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก บวมช้ำน้อย จะเริ่มเห็นผลชัดเจนในช่วงสัปดาห์ที่ 3-4 หลังการผ่าตัด
การทำแบบกรีดสั้นเหมาะกับใคร
- คนที่ปริมาณหนังตาและไขมันบริเวณเปลือกตาไม่มากเกินไป
- วัยรุ่นหรือคนที่ผิวบริเวณเปลือกตาไม่หย่อนคล้อย
ข้อดีของแบบกรีดสั้น
- รอยแผลเป็นเล็ก หายง่าย เพราะเป็นแค่การกรีดแผลบริเวณเปลือกตาเพียง 1-2 เซนติเมตร หลังจากชั้นตายุบตัวเข้าที่ แผลสมานเรียบร้อยแล้วจะแทบไม่เห็นรอยแผลเป็นเลย จะเป็นเหมือนรอยพับชั้นตาตามธรรมชาติ
- ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อย รบกวนเนื้อเยื่อบริเวณเปลือกตาน้อยมาก อาการบวมซ้ำจึงน้อยไปด้วย ยุบเร็ว เข้าที่เร็ว (เมื่อเทียบกับทำแผลใหญ่) หลังทำแทบไม่ต้องพักฟื้น สามารถออกไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- เหมาะกับคนอายุน้อย ๆ ที่มีหนังตาไม่มาก เปลือกตาไม่หนามาก เพราะวิธีนี้จะไม่ได้เอาหนังตาส่วนเกินออก
ข้อเสียของแบบกรีดสั้น
- คนที่มีหนังตาตกมาก หนังตาจะตกมาปิดหลังจากยุบบวม ชั้นจะเล็กลง หรือยังมีหนังตาย้อยลงที่หางตา
- คนที่เปลือกตาหนามาก วิธีนี้ชั้นตาจะดูอุม ๆ กว่าปกติ เนื่องจากเป็นการทำโดยเย็บชั้นตาขึ้นไปให้สูงขึ้น โดยไม่ได้เอาผิวหนังและเนื้อเยื่อเปลือกตาส่วนเกินออก ดังนั้นหากเป็นคนที่มีหนังเปลือกตามาก หรือเคสสูงอายุที่มีความหย่อนคล้อยมากแล้ว แพทย์จะแนะนำให้ทำการผ่าตัดแบบกรีดยาวร่วมกับการตัดหนังตาส่วนเกินออกจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและสวยงามกว่า
การทำแบบกรีดยาว
เป็นการผ่าตัดตาโดยการกรีดหนังตาด้านบน ตั้งแต่ช่วงหัวตาไล่ยาวไปถึงบริเวณหางตา เพื่อนำไขมันส่วนเกินบริเวณเปลือกตาออก ในบางรายอาจต้องตัดหนังตาส่วนเกินออกด้วย ก่อนเย็บเปลือกตาให้ได้สองชั้นตามต้องการ
โดยการทำแบบกรีดยาวนั้น เหมาะกับผู้ที่มีอายุมาก เนื่องจากมีเบ้าตาลึก หนังตาหย่อนกว่า ควรกรีดยาวเพื่อนำไขมันบนเปลือกตาออกก่อน รวมถึงผู้ที่มีปัญหาหางตาตก เปลือกตาหย่อนคล้อยจนบดบังการมองเห็น เนื่องจากอายุที่มากขึ้น จึงต้องทำแบบกรีดยาวนำไขมันออกและอาจจำเป็นต้องตัดหนังตาส่วนเกินออก ก่อนเย็บชั้นตาเพื่อให้ตาดูสมส่วนมากขึ้น การทำแบบกรีดยาวใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1-1.30 ชั่วโมง หลังการผ่าตัดใช้เวลาในการพักฟื้นประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากดวงตาจะค่อนข้างบวมช้ำ และใช้เวลา 1-2 เดือน จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน คนไข้ควรดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมตาเป็นอย่างดี
การทำแบบกรีดยาวเหมาะกับใคร
- คนที่ปริมาณหนังตาและไขมันบริเวณเปลือกตาไม่มากเกินไป
- วัยรุ่นหรือคนที่ผิวบริเวณเปลือกตาไม่หย่อนคล้อย
ข้อดีของแบบกรีดยาว
- ลดโอกาสการเกิดหนังตาที่หางตาดกมากกว่าในทำแบบกรีดสั้น (แต่ถ้าหนังตาตกเยอะมากก็เอาไม่อยู่)
- การทำตาวิธีนี้เป็นการกรีดแผลยาว จึงสามารถเอาไขมันออกได้มากขึ้น โดยเฉพาะในคนที่เปลือกตามีไขมันมาก เคสวัยรุ่นที่เปลือกตาไม่ได้มีความหย่อนคล้อยก็สามารถใช้เทคนิคนี้ได้
ข้อเสียของแบบกรีดยาว
- มีอาการบวมช้ำมากกว่าและนานกว่าเมื่อเทียบกับการทำแบบกรีดสั้น รอยแผลยาวและเห็นได้ชัดกว่า
- เหมือนข้อเสียในการทำแบบกรีดสั้น ไม่หมาะกับคนที่มีไขมันและเปลือกตาหนามาก เพราะเทคนิคนี้สามารถเอาไขมันออกได้ในระดับนึง แต่ไม่ได้ตัดเอาหนังตาส่วนเกินออก ดังนั้นถ้าใช้วิธีนี้กับเคสที่มีหนังตาตก หรือมีความหย่อนคล้อยมาก หนังตาที่มีอยู่ก็จะตกลงมาปิดชั้นตา ทำให้เห็นชั้นตาไม่ชัดอยู่ดี
โดยสรุปแล้ว
การเลือกทำแบบกรีดสั้นหรือแบบกรีดยาว ควรปรึกษาแพทย์ที่ทำการผ่าตัดให้ แพทย์ช่วยประเมินโครงสร้างดวงตาและวิเคราะห์ปัญหา รวมถึงช่วยออกแบบชั้นตาให้ตรงใจคนไข้มากที่สุด
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- แจ้งโรคประจำตัวกับคุณหมอ เพื่อตรวจสอบความพร้อมเบื้องต้น รวมถึงยาที่รับประทานเป็นประจำเพราะยาบางชนิดมีผลต่อการพักฟื้นหลังผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงการรับประทานยาที่มีลักษณะละลายลิ่มเลือด หรือยาที่ส่งผลทำให้เลือดแข็งตัว เช่น ยาแอสไพริน เป็นต้น
- งดรับประทานอาหารเสริมและวิตามินชนิดต่าง ๆ อย่างน้อยหนึ่งเดือน
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลาสองสัปดาห์
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อเตรียมร่างกายให้แข็งแรง ซึ่งจะช่วยทำให้หลังผ่าตัด ระบบในร่างกายฟื้นฟูเร็ว
การดูแลหลังผ่าตัด
- ประคบความเย็นหลังผ่าตัดเป็นเวลา 2-3 ชั่วโมง และจะต้องประคบต่อเนื่อง 2-3 วัน
- หลีกเลี่ยงความชื้น พยายามให้แผลแห้ง และรักษาความสะอาดตลอดเวลา ไม่ให้มีคาบเลือดหรือมีสะเก็ดเลือดติดอยู่บริเวณแผล
- มาตามนัดของคุณหมอทุกครั้ง เพื่อติดตามดูอาการรอยบวม และบริเวณรอยช้ำรอบดวงตา
- พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวโดยเร็ว
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงการขยี้บริเวณตาอย่างรุนแรง โดยไม่ควรสัมผัสบริเวณนี้ อย่างน้อยเป็นเวลา 3 สัปดาห์
- สามารถแต่งหน้า ล้างหน้าได้ปกติ
- สำหรับท่านใดที่มีขี้ตามากกว่าปกติ ไม่ต้องกังวล เพราะอาการนี้จะหายได้เอง ภายใน 1 สัปดาห์
- สำหรับท่านที่รู้สึกตึงบริเวณด้านบนของหนังตา อาการนี้จะหายไปเอง ภายใน 1 สัปดาห์
FULL INCISION DOUBLE EYES ศัลยกรรมตาสองชั้นเทคนิคเปิดแผลยาว
ในกรณีที่เปลือกตามีไขมันมาก, เปลือกตามีผิวหนังที่หนาขึ้น, และเปลือกตาที่มีกล้ามเนื้อมากนั้น ปกติจะใช้วิธีการกรีดในการดำเนินการผ่าตัดเพื่อทำให้ตาเป็นสองชั้น
การทำแบบแผลยาว แบบการกรีดตลอดแนว (Full Incisional Blepharoplasty) เพื่อเป็นการเปิดดวงตาให้โตขึ้น มีการเปิดความยาวและความกว้างของตา ผลที่ได้จะทำให้มีชั้นตาที่ชัดขึ้น ไม่หลบใน ข้อดีคือ แพทย์สามารถลงไปเย็บได้ถูกชั้นกล้ามเนื้อตา ถูกตำแหน่ง และสามารถตัดหนังตาส่วนเกินออกได้อย่างแม่นยำและเอาไขมันออกด้วยเลยทีเดียว เหมาะกับคนที่มีหนังตาเกินมาก ๆ หรือต้องการชั้นตาสวยคมชัดตลอดแนวเส้นชั้นตา
ทั้งนี้ปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ควรเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อให้แพทย์ประเมินและแนะนำวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีมากที่สุด
ศัลยกรรม ตาสองชั้น CELEBRITY EYES คืออะไร
Celebrity Eyes คือ การผ่าตัดโดยใช้เลเซอร์ในการเปิดแผลเพื่อให้แผลมีขนาดเล็กและเลือดออกน้อย และยังใช้ร่วมกันกับกล้อง (Microscopic) โดยจะเป็นการเย็บกล้ามเนื้อเพื่อกำหนดชั้นตา แก้อาการตาปรือ ตาตก ชั้นตาหลบใน สำหรับเทคนิค Celebrity eyes บาดแผลจะมีขนาดเล็กจึงไม่จำเป็นต้องเย็บแผลหรือตัดไหม หลังผ่าตัดคนไข้บางรายสามารถแต่งหน้าและทำกิจวัตรประจำวันตามปกติได้เลย
ทั้งนี้ปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ควรเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แพทย์ประเมินและแนะนำวิธีการผ่าตัดที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด
องค์ประกอบของตาสวยมีอะไรบ้าง
ใครที่กำลังสนใจจะทำมาทางนี้!! แก้ปัญหาตาตก ชั้นตาไม่เท่ากัน ชั้นตาหลบใน ตาชั้นเดียว ให้มีชั้นตาที่สวยเข้ากับใบหน้า ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าตาที่สวยงามไม่ใช่เพียงแค่ตาโตหรือมีสองชั้นเท่านั้น แต่ยังมีองค์ประกอบอีกหลายอย่าง โดยองค์ประกอบที่ว่านี้ได้แก่
- ระยะคิ้วที่กว้างได้สัดส่วน
- หัวตาต้องเปิด ทำให้มองเห็นเต็มลูกตา
- หางตาควรชี้ขึ้น มีลักษณะคล้ายตาหงส์
- ตาไม่ลึก หมายถึง ดวงตาต้องเสมอกับขอบกระดูกเบ้าตาหรือโปนออกมาด้านหน้านิด ๆ
ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้จะทำให้ดวงตาดูมีเสน่ห์และน่ามอง เรียกว่าเป็น “ตาโมเดล” และเป็นหลักการในการทำศัลยกรรมตาให้กับคนที่มีปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับตาทั้งผู้ชายและผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นตาตก ตาปรือ ตาชั้นเดียว ชั้นตาไม่เท่ากัน หรือหัวตาปิด เป็นต้น
ข้อดีของการทำตาหวานด้วย CELEBRITY EYES
- ใช้เลเซอร์เปิดแผลเพียง 1 มม.
- หลังจากทำตาหวาน คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- เนื่องจากแผลเล็กมากจึงไม่มีแผลเป็นหลังทำ
- ไม่จำเป็นต้องตัดไหม
- ช่วยพลิกขนตาทำให้ดวงตาโตขึ้น
สิ่งสำคัญหลังทำศัลยกรรมตาหวาน CELEBRITY EYES ที่ไม่ควรละเลย!!
- หลังศัลยกรรมตาหวาน ควรประคบเย็นหลังการผ่าตัดเป็นเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง และประคบต่ออีก 2-3 วัน
- พยายามให้แผลแห้งและสะอาดตลอดเวลา อย่าให้มีคราบเลือดหรือสะเก็ดเลือดติดอยู่ที่แผล (โดยปกติจะเปิดแผลหลังผ่าตัด 24 ชั่วโมง)
- อาการบวมและรอยช้ำอาจจะเกิดขึ้นได้ต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล ห้ามก้มหัวหรือนอนคว่ำ การใช้หมอนนุ่ม ๆ 2-3 ใบ สำหรับการรองนอนจะช่วยลดอาการบวมและความเจ็บปวดได้
- ระวังไม่ขยี้ตารุนแรง 3 สัปดาห์ ให้ล้างหน้า, แต่งหน้าตามปกติ
- บางท่านจะมีขี้ตามากกว่าปกติ ไม่ต้องทำอะไร แล้วจะหายไปเองใน 1 สัปดาห์
* หลังการผ่าตัดจะเกิดอาการบวมขึ้นได้กับทุกคน โดยอาการจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล