โปรแกรมบำรุงผิวหน้าแบบล้ำลึก (FACE CELL)

face cell เป็นเทคนิคหน้าใส่ที่ใช้ stem cell ในการฉีดไปที่ผิวหน้า ทำให้หน้าใส ลดริ้วร้อย หน้าเด็กลงอย่าเห็นได้ชัด

Face cell

Face cell เป็นการนำวิตามินเข้มข้นเข้าสู่ผิวหน้า โดยมีส่วนผสมหลัก คือ น้ำเลี้ยง Stem Cell และวิตามินบำรุงผิวนานาชนิด ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนวัย ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว เป็นการบำรุงแบบล้ำลึกสู่เซลล์ผิวหน้าโดยตรง ช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูเซลล์ผิวจากภายใน ทำให้จุดด่างดำ ริ้วรอยจางลง หากรักษาอย่างต่อเนื่อง ผิวหน้าจะขาวกระจ่างใสเรียบเนียน เห็นผลเร็วกว่าการทาครีมบำรุงผิวเพียงอย่างเดียว

คุณสมบัติพิเศษ

  • Acetyl Hexapeptide-8: ยับยั้งการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ ยกกระชับผิวให้กระชับเต่งตึง
  • Hyaluronic Acid: ช่วยลดเลือนริ้วรอย
  • Trylagen: เพิ่มคุณสมบัติยกกระชับผิว กระตุ้นการผลิตโปรตีนโครงสร้างใหม่ และฟื้นฟูเซลล์ที่มีอยู่
  • Astaxanthin: เป็นสารสกัดจากสาหร่ายทะเลลึก ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด
  • วิตามินนานาชนิด, กรดอะมิโน, แร่ธาตุสำคัญต่างๆ และ Nucleic acid precursors
  • Human Amniotic Cell Conditioned Media (ASCE I)
ข้อดีของการทำ FACE CELL กับโณงพยาบาลศัลยกรรม โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช

ข้อดี

  • ลดเลือนริ้วรอยร่องลึก ให้จางลง
  • ปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ เรียบเนียน
  • ลดเลือนจุดด่างดำ
  • บำรุงและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า เนียนนุ่ม ดูเด้ง ฟูขึ้น
  • ปรับผิวให้สว่าง กระจ่าง สดใส มีออร่า สุขภาพดี
  • ผลลัพธ์คงอยู่ได้ประมาณ 3-5 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และกิจวัตรประจำวันของแต่ละบุคคล
  • เห็นความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรก หลังจากฉีดประมาณ 7-14 วัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ควรทำต่อเนื่องเดือนละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 4-5 เดือน
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการบริการการทำ Face cell ต้องเตรียมอย่างไรบ้าง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

การเตรียมตัวก่อน เข้ารับการบริการ

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือรับประทานยาประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
  • ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยา หรือแพ้อาหาร โดยเฉพาะอาหารทะเลและโปรตีน  ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน

ข้อแนะนำหลังทำ

  • สามารถแต่งหน้า และทำกิจกรรมต่างๆ ได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น
  • อาจเกิดอาการปวด หรือเกิดรอยเขียวช้ำได้ โดยอาการจะค่อยๆ หายไปใน 3-5 วัน
  • งดการอบซาวน่า นวดหน้า หรือทำ Treatment หลังทำ 1 สัปดาห์
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ หลังทำ 1 สัปดาห์

ฉีดสเต็มเซลล์ ( STEM CELL ) ยกกระชับผิวหน้าชะลอวัยผิวพรรณสดใส

สเต็มเซลล์ เชื่อว่าหลายๆ ท่านต้องเคยได้ยินบ่อยๆ แต่รู้ไหมคะ ว่าจริงๆ แล้ว Stemcell นี้คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรวันนี้ แอดมิน มีเราจะมาทำความเข้าใจและรู้จักกับสเต็มเซลล์ให้มากขึ้น ซึ่งก็ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสเต็มเซลล์มาบอกต่อกันดังนี้

สเต็มเซลล์ ( STEM CELL ) คืออะไร ?

สเต็มเซลล์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่ง คือ เซลล์ต้นกำเนิด โดยเซลล์ชนิดนี้จะมีอยู่แทบทุกส่วนในร่างกายของคนเรา ซึ่งมีความสามารถในแบ่งตัวเองได้อย่างไม่จำกัด เพื่อเข้าไปทดแทนเซลล์ต่างๆ ในร่างกายที่เกิดการเสื่อมสภาพลงไป ทำให้ร่างกายของฟื้นฟู หรือเจริญเติบโตขึ้น นั่นเองค่ะ 

สเต็มเซลล์ ( Stem cell ) กับวงการความงาม

สเต็มเซลล์ที่นำมาใช้ เสริมสร้างความงาม และเสริมสร้างความอ่อนเยาว์ มิเซนไคยมอล สเต็มเซลล์ (Mesenchymal stem cells – MSC) ซึ่งจะใช้ฉีดเข้าสู่ร่างกายโดยตรงค่ะ 

MESENCHYMAL STEM CELLS (MSC) คืออะไร ? 

         MSC เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มี คุณสมบัติพิเศษในการเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเป็นเซลล์ต่างๆ ในร่างกายดี นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้กับผู้อื่นได้โดยไม่เกิด การต่อต้านของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันของผู้รับนั่นเองค่ะ

ทำไม MESENCHYMAL STEM CELLS (MSC) ถึงช่วยในด้านเสริมความงาม 

เนื่องจาก Mesenchymal Stem Cells (MSC) นั้น นอกจากจะช่วยสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน เซลล์เดิมที่เสื่อมสภาพลงไปแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการสร้าง Connective Tissue ที่มีส่วนในการช่วยสร้างเส้นใยคอลลาเจน อีลาสติน รวมถึงการสร้างหลอดเลือด และเนื้อเยื่อไขมัน ทำให้การไหลเวียนเลือดเข้าสู่ผิวดีขึ้น ส่งผลให้ ผิวมีความยืดหยุ่น มีน้ำมีนวล เปล่งประกาย ไปด้วยนั่นเอง

ซึ่ง สเต็มเซลล์ ที่นำมาใช้ในการรักษานั้น จะเป็น สเต็มเซลล์ที่มาจากสายสะดือค่ะ แต่เนื่องจากปริมานที่ได้จากสายสะดือมีปริมาณน้อย ซึ่งเมื่อเทียบกับปริมานที่ใช้รักษา ( อย่างน้อย 1 ล้านเซลล์  ต่อครั้งนั้น ) ต่างกันมากๆ ค่ะ 

จึงเป็นเหตุผลเกิดการเพาะเลี้ยง สเต็มเซลล์ขึ้นมานั่นเอง โดยการเพาะเลี้ยงนั้น ทางห้อง Lab จะนำ stem cell ที่เก็บได้จาก สายสะดือ เข้าสู่กระบวนเพาะเลี้ยงเพื่อเพิ่มจำนวนค่ะ ทุกครั้งที่ทำการขยายจำนวน ความเข้มข้นของตัว สเต็มเซลล์ ก็จะลดลงตามด้วย

ซึ่งในตรงส่วนนี้เอง คือที่มาของ Passage Cell (คุณภาพของเซลล์) ที่ใช้โดยจะระบุไว้ในรูปแบบของ ตัว P ที่มีตัวเลขกำกับ นั้นเองค่ะ โดยตัวเลขกำกับนั้น หมายถึง จำนวนรอบของการเพาะเลี้ยงค่ะ 

ยิ่งตัวเลขน้อย หมายถึง สเต็มเซลล์ ที่นำมาใช้มีความเข้มข้นสูง และมีคุณภาพดีด้วยนั่นเอง

การฉีดสเต็มเซลล์แพทย์ จะทำการวิเคราะห์ปัญหาของผิวคนไข้ เพื่อกำหนดปริมานที่เซลล์สำหรับใช้ในการ (หน่วย : ล้านเซลล์) * ปริมานที่ใช้จะต่างกันค่ะ โดยจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล 

      ผลของ Stem Cell จะเข้าไปฟื้นฟูผิวลงลึกถึงระดับเซลล์ (Cellular Level) ทำให้ผิวแข็งแรง ทำให้ตอบสนองต่อการรักษาต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

  •  เพื่อชะลออายุผิว ผิวจึงดูอ่อนเยาว์
  •  ฟื้นฟูผิว ริ้วรอยตื้น ๆ จางลง
  •  คืนความชุ่มชื้น
  •  คืนความกระชับ และความเต่งตึงให้กับผิว
  •  เห็นผลภายใน 2-3 เดือน
  •  ใช้เวลา 30 นาที
  •  ควรรับบริการทุกๆ 6 เดือน ถึง 1 ปี
  •  ในคนไข้บางรายพบว่า สามารถทำให้ฝ้าจางลงได้อีกด้วย

ผลลัพธ์ และ ตำแหน่งใน ฉีดสเต็มเซลล์  

1.ฉีดเข้าผิวหน้า

เพื่อลดริ้วรอย, ร่องลึกต่างๆ ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึงเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ ผิวกระจ่างใส เปล่งปลั่งมีออร่าอย่างเห็นได้ชัด เช่น หน้า คอ ร่องแก้ม ร่องใต้ตา หน้าผาก แก้ม เป็นต้น

ปริมานเซลล์ ที่ใช้เริ่มต้น 5 ล้านเซลล์  

* ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าและการประเมินของแพทย์

2.ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ

เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างเซลล์ผิวพรรณให้กระชับ เต่งตึงปรับสมดุลผิวเพื่อความขาวกระจ่างใส เปล่งเปลั่ง แข็งแรงอ่อนเยาว์ มีน้ำมีนวล ลบริ้วรอย ผิวพรรณเรียบเนียนทั่วเรือนร่าง และยังสามารถป้องกันผื่นแพ้ต่างๆ

คำแนะนำหลังการฉีดสเต็มเซลล์

  1. งดใช้ครีมบำรุง ครีมกันแดด และเครื่องสำอางทุกชนิด ในบริเวณที่ฉีด อย่างน้อย 1 วัน
  2. งดทำเลเซอร์ ทรีทเมนท์ รวมถึงการอบซาวน่า อย่างน้อย 2 สัปดาห์ 
  3. ควรประคบเย็น 24 ชั่วโมงแรก เพื่อลดอาการบวม และอาการเขียวช้ำหลังการฉีด
  4. หลีกเลี่ยงการสัมผัส กับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานานๆ
  5. อาจจะเกิดอาการบวม หรือมีรอยเขียวช้ำหลังการฉีด ในช่วงสัปดาห์แรก โดยอาการดังกล่าวนี้จะดีขึ้นเอง ภายใน 1 – 2 สัปดาห์ค่ะ

ทำไมต้องฉีดสเต็มเซลล์ ที่ โรงพยาบาลศัลยกรรม สเต็มเซลล์ ที่  มาสเตอร์พีซ แตกต่างอย่างไร ? 

  • 1.เราใช้ Stem Cell จาก Lab ชั้นนำ ผ่านมาตรฐาน AABB (มาตรฐาน  Lab Stem Cell USA) 
  • 2.เราใช้เซลล์ กลุ่ม MSC Cell ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดตามวิจัย * คือ อยู่ใน Passage P0 – P3 ค่ะ ซึ่งเป็น Cell ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด มีความเข้มข้นสูง เนื่องจากผ่านกระบวนเพิ่มจำนวน ที่น้อยกว่า Cell ใน Passage อื่นๆ ( โดย Lab พาณิชย์ทั่วไปส่วนใหญ่จะใช้ เซลล์จาก P12 – 21 โดยเฉลี่ย ซึ่งมีความเจือจางกว่าหลายเท่าค่ะ )
  • ทุกเคสจะได้ใบรับรองคุณภาพ Stem Cell 

แชร์เลย: