ดูดไขมันหน้า กำจัดไขมันส่วนเกิน บริเวณใบหน้า
ดูดไขมันหน้า
ดูดไขมันหน้า (Facial Liposuction) เป็นการดูดไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้า เช่น ใต้คาง แก้ม และกราม เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวและมีกรอบที่ชัดเจนมากขึ้น พิจารณาจากปัญหาและการสะสมของไขมันในแต่ละบุคคล จะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยในการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นมองเห็นรูปกรอบหน้าและคางได้ชัดเจนยิ่งขึ้นทำให้ดูหน้าเล็กลง การมีไขมันสะสมอยู่บริเวณใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณใบหน้าช่วงล่างจะทำให้แลดูสูงอายุ การดูดไขมัน ทำให้รูปหน้าดูดีขึ้น
ดูดไขมันหน้า Facial Liposuction คืออะไร?
การดูดไขมันหน้า จะใช้เครื่อง Vaser Liposuction ในการดูดไขมันนับเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการดูดไขมันบริเวณใบหน้าเป็นบริเวณที่บอบบาง จึงต้องใช้ Vaser Liposuction ที่มีความปลอดภัยสูง พร้อมกับความเชี่ยวชาญของแพทย์เป็นอย่างมาก หลังจากที่ทำการดูดไขมันบริเวณใบหน้าแล้ว จะเกิดความบวมช้ำน้อย ผิวหนังบริเวณนั้นจะยังคงมีความเรียบกระชับอยู่ และมีระยะเวลาในการพักฟื้นตัวเร็ว เพราะ Vaser Liposuction ใช้หลักการพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงเข้าไปแตกตัวเซลล์ไขมัน ซึ่งสามารถเลือกสลายไขมันเฉพาะส่วนที่ต้องการดูดออกเท่านั้นโดยที่เนื้อเยื่อโดยรอบ อาทิเช่น เส้นประสาท , เส้นเลือดและเนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้องไม่ถูกทำลายให้เสียหายไปด้วย
Vaser Liposuction คือ นวัตกรรมใหม่ในการดูดไขมัน โดยใช้ของเหลวเป็นตัวนำพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงทำให้เกิดความร้อน และทำให้เกิดการทำลายเฉพาะส่วนไขมันเท่านั้น จากก้อนไขมันที่คล้ายเนยแข็งจะละลายกลายเป็นของเหลวอย่างง่ายดาย ทำให้สามารถดูดไขมันได้อย่างนุ่มนวลมากในบริเวณที่ทำการดูดไขมัน อาการเขียว บวม ช้ำ จะเกิดน้อยกว่าการดูดไขมันวิธีแบบเดิม ระยะเวลาในการพักฟื้นก็จะน้อยกว่า
พบกับนวัตกรรมใหม่ล่าสุด Vaser Liposuction 2.2 เครื่องดูดไขมันที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ด้วยระบบการใช้คลืนพลังงาน Ultrasound ในการสลายเซลล์ไขมันแบบเฉพาะเจาะจง พร้อมด้วยหัวดูดแบบ Smooth ที่สามารถรักษาเซลลูไลท์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสร้างรูปร่างแบบ High Definition จึงทำให้สามารถสลายไขมันได้อย่างแม่นยำและลดอาการบาดเจ็บระหว่างทำ หลีกเลี่ยงการส่งผลกระทบกับเนื้อเยื่อบริเวณอื่น อาทิเช่น เส้นเลือด เส้นประสาท จึงทำให้เกิดการบาดเจ็บน้อย และลดระยะเวลาในการดูดไขมัน นอกจากนี้ยังมีระบบ Fat Transfer ที่สามารถปรับตั้งค่าในการกักเก็บไขมันเพื่อประสิทธิภาพในการคงอยู่ของเซลล์ไขมันเมื่อนำไปฉีดแก้ไขส่วนที่บกพร่อง
- หัวดูดไขมันแบบ Smooth เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาเซลลูไลท์ หมดปัญหาผิวหนังเป็นคลื่นหลังทำการรักษา
- มีประสิทธิภาพในการดูดไขมันออกมาได้ดียิ่งกว่า เมื่อเทียบกับเครื่องดูดไขมันรุ่นเก่า ถึง 30%
- ระบบ Fat Transfer ที่สามารถปรับตั้งค่าในการกักเก็บไขมันเพิ่มจำนวนการอยู่รอดของเซลล์ไขมัน สามารถนำไปฉีดเพื่อเติมเต็มจุดบกพร่องต่อได้ในทันที
- ใช้ระยะในการดูดไขมันต่อ 1 จุด เพียงไม่กี่นาที ส่งผลให้ระยะเวลาในการพักฟื้นสั้นลง
- ตัวเครื่องเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด
ผู้ที่เหมาะต่อการดูดไขมันหน้า
- เหมาะกับผู้ที่อยู่ในช่วงอายุประมาณ 30-40 ปี ผิวยังคงมีความยืดหยุ่นที่ดีอยู่
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องไขมันสะสมส่วนเกินบริเวณใบหน้า เช่น ช่วงบริเวณ แก้มล่าง แนวขอบกราม ใต้คาง
- เหมาะกับผู้ที่มีความยืดหยุ่นของผิวหนังที่ยังดีอยู่ (อายุยังไม่มาก ไม่มีความหย่อนคล้อยของผิวหนังมากเกินไป)
- สำหรับผู้ที่อายุ จนเริ่มมีผิวหนังหย่อนคล้อย การดูดไขมันเพียงอย่างเดียวคงจะไม่เพียงพอ แนะนำให้ทำการผ่าตัดดึงหน้าร่วมด้วยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด
ดูดไขมันหน้าตรงไหน? ที่ทำให้หน้าเรียวขึ้น
บริเวณใบหน้าส่วนล่าง เช่น ช่วงบริเวณ แก้มด้านล่าง แนวขอบกราม ใต้คาง ซึ่งจะมีปริมาณไขมันสะสมอยู่จำนวนมาก ทั้งนี้พื้นที่การรักษาจะต้องเข้าพบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการประเมินบริเวณที่จะดูดไขมันหน้าเป็นการเฉพาะราย
ข้อดีของการดูดไขมันหน้าด้วยเทคโนโลยี VASER LIPOSUCTION
- Vaser Liposuction มีความปลอดภัยสูง
- Vaser Liposuction ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง เข้าไปสลายไขมันให้กลายเป็นของเหลวออกมาและดูดไขมันมันที่แตกตัวออกมา โดยที่เส้นเลือดเซลล์ประสาทและเนื้อเยื่อเซลล์รอบข้างจะได้รับความเสียหายน้อยที่สุด
- หลังทำ Vaser Liposuctionคนไข้สามารถฟื้นตัวได้เร็ว แผลหายได้รวดเร็วและมีรอยช้ำน้อยมาก โอกาสที่คนไข้จะเสี่ยงกับการติดเชื้อหรือมีอาการแทรกซ้อนน้อย คนไข้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ภายใน 1 วัน
- Vaser Liposuction เห็นความเปลี่ยนแปลงได้ คนไข้จะไม่มีปัญหาในเรื่องของผิวเป็นโพรงเพราะการทำ Vaser Liposuction เนื้อเยื่อคอลลาเจนที่พยุงผิวไม่ได้ถูกทำลายไปด้วย
ผลลัพธ์จากการดูดไขมันหน้า บริเวณต่าง ๆ
การดูดไขมันบริเวณใบหน้าใช้ระยะเวลาพักฟื้น 1-3 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เพราะสภาพความแข็งแรงของผิวหนังของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน โดยระยะ 1-2 สัปดาห์แรกหลังจากทำการดูดไขมันที่บริเวณใบหน้าจะมีอาการบวมที่บริเวณใบหน้า ซึ่งคนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ อาการบวมจะค่อย ๆ ยุบตัวลงภายในสัปดาห์ที่ 3 ตามลำดับหลังจากนั้นรูปหน้าจะค่อยๆ เข้าที่เป็นรูป V-Shape สามารถเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้าภายใน 1 เดือนเริ่มเห็นผลชัดเจนในเดือนที่ 3 และเห็นผลชัดเจนที่สุดในเดือนที่ 6
ผู้ที่เหมาะต่อการดูดไขมันหน้าเหนียง
- เหมาะกับผู้ที่อยู่ในช่วงอายุประมาณ 30-40 ปี ผิวยังคงมีความยืดหยุ่นที่ดีอยู่
- เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องไขมันสะสมส่วนเกินบริเวณใบหน้า เช่น ช่วงบริเวณ แก้มล่าง แนวขอบกราม ใต้คาง
- เหมาะกับผู้ที่มีความยืดหยุ่นของผิวหนังที่ยังดีอยู่ (อายุยังไม่มาก ไม่มีความหย่อนคล้อยของผิวหนังมากเกินไป)
- สำหรับผู้ที่อายุจนเริ่มมีผิวหนังหย่อนคล้อยการดูดไขมันเพียงอย่างเดียวคงจะไม่เพียงพอ แนะนำให้ทำการผ่าตัดดึงหน้าร่วมด้วยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมันหน้า
- แจ้งให้แพทย์ทราบข้อมูลโรคประจำตัว ยาโรคประจำตัว, ประวัติการผ่าตัด, ประวัติการแพ้ยา, ประวัติการแพ้อาหาร (หากมีประวัติการรักษาจากโรงพยาบาล ควรนำมาในวันปรึกษาด้วย) หรือแจ้งก่อนวันจองคิวผ่าตัด
- ผู้ป่วยที่ได้รับยาละลายลิ่มเลือด และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือยาโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการผ่าตัดหรือแจ้งก่อนวันจองคิวผ่าตัด
- งดทานวิตามินอาหารเสริมต่าง ๆ ทุกชนิด เช่น วิตามินอี, น้ำมันปลา, ใบแปะก๊วย เมล็ดองุ่น โสม ฯลฯ ต้องหยุดยาอย่างน้อย 1 เดือน
- ควรสระผมให้สะอาดเรียบร้อยก่อนวันผ่าตัด และไม่แต่งหน้าในวันผ่าตัด งดใส่คอนแทคเลนส์ในวันผ่าตัด หากมีปัญหาด้านสายตาให้สวมแว่นสายตาแทน
- งดใส่เครื่องประดับทุกชนิด เช่น ต่างหู สร้อย แหวน จิลต่าง ๆ บนร่างกายในวันผ่าตัด (หากถอดออกไม่ได้ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ)
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด เนื่องจากสารที่อยู่ในบุหรี่มีผลลดปริมาณออกซิเจนในเลือดและทำลายเซลล์ที่จะซ่อมแซมการหายของแผล มีผลทำให้เลือดที่จะมาหล่อเลี้ยงบริเวณที่ผ่าตัดลดลง โดยมีโอกาสให้ผิวหนังที่ผ่าตัดขาดออกซิเจน ทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 วันก่อนผ่าตัด และต่อเนื่องอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
- ก่อนการผ่าตัด คนไข้ต้องทำความสะอาดเล็บมือเล็บเท้าให้สะอาด งดการทาเล็บมือ, เล็บเท้า และงดการต่อเล็บทุกชนิด
- เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป และควรทราบว่าหลังผ่าตัดย่อมเกิดการบวมช้ำบริเวณแผล และการเปลี่ยนแปลงของใบหน้า หรือบริเวณร่างกายที่ทำการผ่าตัด ซึ่งต้องใช้เวลาในการหายของแผลหรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่
การดูแลหลังดูดไขมันหน้า
- หลังการดูดไขมันที่ใบหน้า คนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อาจมีอาการบวมเขียวช้ำได้ประมาณ 2 สัปดาห์ โดยไม่ส่งผลกับการใช้ชีวิตประจำวัน อาการบวมเขียวช้ำ จะลดลงภายในสัปดาห์ที่ 3 ตามลำดับ
- หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำก่อนวันตัดไหม (ถ้าเกิดแผลโดนน้ำให้เช็ดให้แห้ง) อย่าให้แผลอยู่ในสภาวะเปียกชื้น
- หลีกเลี่ยงอาหารประเภท ของหมัก ของดอง อาหารทะเล เพราะจะทำให้เกิดอาการบวมน้ำและคันที่แผลได้ เป็นระยะเวลา 2-4 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้อาการบวมและแผลหายช้ากว่าปกติ เป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการยกสิ่งของหนัก ออกกำลังกายอย่างหนัก หรือทำกิจกรรมที่ไปกระทบกระเทือนบริเวณที่ทำ เป็นระยะเวลา 2-4 สัปดาห์
ข้อแนะนำหลังดูดไขมันหน้า
- หลังจากที่มีการดูดไขมันที่ใบหน้าแล้ว ควรมีการนวดกระชับผิวด้วย คลื่นพลัง RF (Radio Frequency) เพื่อช่วยเพิ่มความกระชับให้แก่ผิวหน้าเร็วยิ่งขึ้น
- หลังจากที่มีการดูดไขมันที่ใบหน้าแล้ว ควรสวมชุดกระชับใบหน้า เพราะการสวมใส่ชุดกระชับใบหน้าสามารถช่วยห้ามเลือดและลดอาการบาดเจ็บได้ และที่สำคัญคือทำให้ผิวหนังหดเข้ารูปได้เร็วยิ่งขึ้น
สาระน่ารู้เกี่ยวกับการทำศัลยกรรม โดยโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช
- ดูดไขมันหน้าท้อง กำจัดไขมันส่วนเกิน
- ดูดไขมันเหนียง ช่วยลดไขมันใต้คาง ได้อย่างไร?
- เสริมหน้าผาก ด้วยซิลิโคนดีอย่างไร?
แหล่งอ้างอิง
https://www.isaps.org/discover/patients-home/procedures/face-head-procedures/facial-liposuction
บทความโดย
โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช : โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านความงามของประเทศไทยและเอเชีย บริการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยทีมแพทย์มากประสบการณ์ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ
ข้อมูลการติดต่อ
สงสัยเรื่องศัลยกรรม และบริการด้านความงาม? อย่ารอช้า ทีมแพทย์ของเรามีคำตอบให้คุณ เพียงแค่ติดต่อมา เรายินดีให้คำปรึกษาฟรี! ตั้งอยู่ที่99/19 ถนนสุไขทัย แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300