เยื่อพรหมจรรย์ ตกแต่งได้ไหม?

masterpiece

เยื่อพรหมจรรย์ หรือเยื่อพรหมจารี เป็นส่วนเยื่อบาง ๆ ที่อยู่บริเวณอวัยวะเพศหญิง อีกทั้งยังเป็นส่วนที่เชื่อกันว่าเป็น “สัญลักษณ์” ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นสาวบริสุทธิ์ที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อดังกล่าวอาจไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด เพราะเยื่อพรหมจรรย์ ไม่จำเป็นจะต้องฉีกขาดจากการมีเพศสัมพันธ์เสมอไป ในวันนี้มาสเตอร์พีชจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเยื่อพรหมจรรย์ ว่าคืออะไร สามารถขาดได้เพราะสาเหตุอะไรบ้าง และถ้าขาดไปแล้วจะทำให้กลับมาเหมือนเดิมได้ไหม ไปดูพร้อมกันได้เลย

เยื่อพรหมจรรย์ คืออะไร อยู่ตรงไหน ลึกแค่ไหน

เยื่อพรหมจรรย์ (Hymen) คือเยื่อบาง ๆ ที่อยู่บริเวณปากช่องคลอดของผู้หญิง ซึ่งสามารถยืดขยายได้ตามการเคลื่อนไหวของแต่ละคน นอกจากนี้เยื่อพรหมจรรย์ของแต่ละคนยังมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกันออกไป ซึ่งจะปรับเปลี่ยนไปตามวัย โดยในช่วงแรกเกิดเยื่อพรหมจรรย์จะมีรูปร่างคล้ายวงแหวน และปกคลุมช่องคลอดทั้งหมด เมื่อร่างกายเติบโตขึ้น เยื่อพรหมจรรย์ก็จะมีรูปร่างคล้ายจันทร์เสี้ยว และปกคลุมแค่ส่วนล่างของช่องคลอดเท่านั้น อย่างไรก็ตามเยื่อพรหมจรรย์ที่ผิดปกติ และควรได้รับการแก้ไข สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 แบบ ได้แก่

1. เยื่อพรหมจรรย์แบบที่ไม่เปิด (Imperforate Hymen)

เยื่อพรหมจรรย์รูปแบบนี้ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ประจำเดือนไม่สามารถไหลออกจากช่องคลอดได้ จนเกิดเลือดคั่งในช่องคลอด เนื่องจากเยื่อพรหมจรรย์รูปแบบนี้จะคลุมส่วนปากช่องคลอดทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่การที่จะพบว่ามีเยื่อพรหมจรรย์รูปแบบนี้ ก็ตอนเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นที่เริ่มมีประจำเดือน โดยแนวทางการแก้ไขคือการผ่าตัดเพื่อนำเยื่อพรหมจรรย์ที่เป็นส่วนเกินออกไป และศัลยกรรมตกแต่งช่องคลอดให้มีขนาดปกติ

2. เยื่อพรหมจรรย์แบบเปิดเล็กน้อย (Microperforate Hymen)

เยื่อพรหมจรรย์รูปแบบนี้ จะคลุมส่วนปากช่องคลอดเกือบทั้งหมด ทำให้ประจำเดือนไหลออกมาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาในการใส่ผ้าอนามัย เนื่องจากหากใช้ผ้าอนามัยแบบสอด อาจทำให้ไม่สามารถนำผ้าอนามัยออกมาจากช่องคลอดได้ โดยแนวทางการแก้ไขก็คือการผ่าตัดเพื่อนำเยื่อพรหมจรรย์ส่วนเกินออกเช่นเดียวกัน เพื่อให้ร่างกายสามารถขับประจำเดือนออกมาได้สะดวก

3. เยื่อพรหมจรรย์ชนิดที่มีแถบกั้น (Septate Hymen)

เยื่อพรหมจรรย์รูปแบบนี้ จะมีเนื้อเยื่อส่วนเกินมาปกคลุมบริเวณกลางช่องคลอด ซึ่งปัญหาของพรหมจรรย์รูปแบบนี้คือทำให้ไม่สามารถใส่ผ้าอนามัยแบบสอดได้ หรือในกรณีที่ใส่ได้ก็จะทำได้ลำบาก ดังนั้น จึงควรมีการผ่าตัดเพื่อแก้ไข โดยวิธีการก็เช่นเดียวกับพรหมจรรย์สองรูปแบบแรก คือการผ่าตัดนำส่วนที่เกินออก และตกแต่งให้มีขนาดปกติ

อย่างไรก็ตาม เยื่อพรหมจรรย์เป็นส่วนที่บอบบางและละเอียดอ่อน เมื่อเยื่อพรหมจรรย์ขาดจะมีเลือดไหลออกมา ดังนั้นในการผ่าตัดหรือทำศัลยกรรมใด ๆ จึงจำเป็นจะต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ซึ่งโรงพยาบาลมาสเตอร์พีชมีบริการรีแพร์ สำหรับใครก็ตามที่ต้องการตกแต่งแก้ไขจุดซ่อนเร้น

เยื่อพรหมจรรย์ มีหน้าที่อะไร

เยื่อพรหมจรรย์ เป็นส่วนที่ทำให้ประจำเดือนสามารถไหลออกมาได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีงานวิจัยที่แน่ชัดว่าเยื่อพรหมจรรย์มีหน้าที่อะไรในระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิง มีเพียงข้อสันนิษฐานว่าอาจช่วยป้องกันสิ่งแปลกปลอมและแบคทีเรียเข้าไปในช่องคลอดเท่านั้น

สาเหตุที่ทำให้เยื่อพรหมจรรย์ขาด

คนส่วนใหญ่เชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้เยื่อพรหมจรรย์ขาดคือการมีเพศสัมพันธ์ และเป็นความเชื่อดั้งเดิมที่ทำให้เยื่อพรหมจรรย์กลายเป็นสัญลักษณ์ของสาวบริสุทธิ์ อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงเยื่อพรหมจรรย์ขาด สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

  • การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ แต่การใช้นิ้วหรืออุปกรณ์ทางเพศก็อาจทำให้เยื่อพรหมจรรย์ที่มีความบอบบางขาดได้
  • การเล่นกีฬาหรือกิจกรรมผาดโผน เช่น การปั่นจักรยาน ขี่ม้า ทำให้บริเวณอวัยวะเพศได้รับการกระทบกระเทือน และอาจฉีกขาดได้
  • การใส่ผ้าอนามัยแบบสอด
  • อุบัติเหตุ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ทำให้อวัยวะเพศได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง
  • การตรวจภายใน

นอกเหนือจากสาเหตุเหล่านี้ ก็อาจมีบางกรณีที่เยื่อพรหมจรรย์ขาดตั้งแต่กำเนิด หรือไม่มีเยื่อพรหมจรรย์ตั้งแต่แรกเลยก็ได้ ดังนั้น ข้อสรุปคือเยื่อพรหมจรรย์ไม่จำเป็นต้องขาดจากการมีเพศสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว เพราะปัจจัยอื่น ๆ ก็สามารถทำให้เยื่อพรหมจรรย์ขาดได้เช่นเดียวกัน

การผ่าตัดตกแต่งเยื่อพรหมจรรย์

เยื่อพรหมจรรย์ขาด อาจไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ด้วยค่านิยมดั้งเดิม ทำให้หลายคนเกิดความไม่สบายใจเมื่อเยื่อพรหมจรรย์ขาด ซึ่งในปัจจุบันสามารถศัลยกรรมผ่าตัดตกแต่งเยื่อพรหมจรรย์เพื่อทำให้กลับมาเหมือนเดิมหรือคล้ายเดิมได้ อีกทั้งยังสามารถฉีกขาดได้อีกครั้ง โดยการใช้วิธีดึงเนื้อเยื่อที่ฉีกขาดให้กลับมายึดติดบริเวณช่องคลอด ในกรณีที่เนื้อเยื่อไม่พอ แพทย์ก็จะมีการวินิจฉัยเพื่อใช้วิธีอื่น ซึ่งสามารถทดแทนเนื้อเยื่อเดิมได้

นอกจากนี้ การผ่าตัดตกแต่งเยื่อพรหมจรรย์ยังมีข้อจำกัด และไม่สามารถรับประกันผลลัพธ์ได้ทั้งหมด เนื่องจากเยื่อพรหมจรรย์ดั้งเดิมของแต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป ในบางกรณีเยื่อพรหมจรรย์อาจบางมาก หรือมีรอยขาดหลายจุด ซึ่งจะทำให้การเย็บซ่อมรอบวงของเพื่อพรหมจรรย์จะทำได้ยาก อาจเย็บติดเพียงบางส่วน แต่ไม่ครบวงทั้งหมด ดังนั้นผู้ที่ต้องการจะผ่าตัดแต่งตกเยื่อพรหมจรรย์ จึงจะต้องมีการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจร่วมกันกับแพทย์ เพื่อจะทำให้การผ่าตัดออกมาได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการที่สุด

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดตกแต่งเยื่อพรหมจรรย์

การผ่าตัดตกแต่งเยื่อพรหมจรรย์ ถือเป็นการผ่าตัดรูปแบบหนึ่ง ก่อนจะผ่าตัดจึงจำเป็นจะต้องมีการตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานต่าง ๆ รวมถึงสัญญาณชีพ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ ชีพจร ความดันโลหิต การหายใจ รวมถึงจำเป็นจะต้องมีการเอ็กซเรย์ปอดและตรวจเลือด นอกจากนี้สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นยังจำเป็นจะต้องมีการตรวจคลื่นหัวใจด้วย ในส่วนของการเตรียมตัว สามารถทำได้ดังนี้

  • งดสูบบุหรี่ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • ในกรณีที่มีการใช้ยาละลายลิ่มเลือด ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนหยุดใช้ยา
  • งดน้ำ งดอาหาร ก่อนผ่าตัด 6 ชั่วโมง
  • ในกรณีที่มีอาการแพ้ยา หรือมีโรคประจำตัว ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ รวมถึงควรแจ้งข้อมูลจำเป็นให้แพทย์อย่างครบถ้วน นอกจากนี้หากมีอาการผิดปกติใด ๆ ก่อนทำการผ่าตัดควรแจ้งแพทย์ให้ทันที

ขั้นตอนการผ่าตัดเยื่อพรหมจรรย์

สำหรับการผ่าตัดตกแต่งเยื่อพรหมจรรย์ ไม่ต่างจากการผ่าตัดรูปแบบอื่น ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยมีขั้นตอนคือ แพทย์จะให้ยานอนหลับชนิดฉีดเข้าหลอดเลือดดำ หลังจากผู้เข้าผ่าตัดหลับ แพทย์จะฉีดยาชาบริเวณวงรอบเยื่อพรหมจรรย์ เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์จะเริ่มทำการผ่าตัด โดยเลาะตามขอบเยื่อพรหมจรรย์ที่ฉีกขาดตามจุดต่าง ๆ แล้วเย็บซ่อมด้วยไหมละลายช้าเส้นเล็ก เพื่อห้ามเลือดจุดต่าง ๆ โดยจะทำการเย็บ 2-3 ครั้ง เพื่อป้องกันภาวะแผลแยก และเลือดออกผิดปกติ

การดูแลหลังผ่าตัดตกแต่งเยื่อพรหมจรรย์

หลังจากผ่าตัดตกแต่งเยื่อพรหมจรรย์ อาจมีโอกาสที่แผลจะแยกหรือมีภาวะเลือดออกผิดปกติได้ เนื่องจากเยื่อพรหมจรรย์เป็นส่วนที่บอบบาง และอาจได้รับผลกระทบจากการเคลื่อนไหว จึงควรดูแลตัวเองดังนี้

  • ควรหยุดทำงานและงดกิจกรรมอื่น ๆ ที่เสี่ยงต่อการกระทบกระเทือนในช่วง 2-3 วันแรกหลังผ่าตัด หากภายใน 2 วันไม่พบภาวะแทรกซ้อนใด ๆ สามารถกลับไปทำงานได้ปกติ
  • รับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่ควรงดแอลกอฮอล์ ของหมักดอง และงดสูบบุหรี่ในช่วง 2 สัปดาห์แรก
  • ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเดินเยอะ ๆ หรือขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ ในช่วง 2 สัปดาห์แรก
  • งดออกกำลังกาย 4-6 สัปดาห์
  • งดการมีเพศสัมพันธ์ 8-12 สัปดาห์
  • ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เนื่องจากแผลผ่าตัดอยู่ใกล้ทางเดินปัสสาวะและอุจจาระ จึงมีความเสี่ยงที่จะอักเสบและติดเชื่อ
  • หลังจากผ่าตัด 1-2 วันสามารถอาบน้ำได้ตามปกติ
  • ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ควรใส่ผ้าอนามัย เพื่อสังเกตปริมาณเลือดออก เนื่องจากอาจมีเลือดจาง ๆ ออกจากแผลผ่าตัด อย่างไรก็ตาม หากเลือดออกเยอะเกินไป ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจสอบแผลผ่าตัด
  • อาจมีตกขาว ซึ่งเป็นเรื่องปกติ จากการทานยาปฏิชีวนะ อย่างไรก็ตาม กรณีตกขาวมีกลิ่นเหม็น อาจปรึกษาแพทย์เพื่อรับยามาทานเพิ่มเติม
  • ควรปฏิบัติตัวตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด และหากมีอาการผิดปกติใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางแก้ไขทันที

ปรึกษาผ่าตัดตกแต่งเยื่อพรหมจรรย์ มาสเตอร์พีช

เยื่อพรหมจรรย์เป็นส่วนที่บอบบางและละเอียดอ่อน ดังนั้น แพทย์จึงจำเป็นจะต้องมีความเชี่ยวชาญและมีเทคนิคการเย็บแผลที่ดี เพื่อป้องกันภาวะแผลแยก ซึ่งในปัจจุบันการผ่าตัดตกแต่งเยื่อพรหมจรรย์พัฒนาไปมาก ทำให้มีเครื่องมือเข้ามาช่วยทำให้การผ่าตัดมีความแม่นยำมากขึ้น ลดการสูญเสียเลือดและการบอบช้ำของเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายไวขึ้น ทางโรงพยาบาลมาสเตอร์พีชมีแพทย์ที่มีประสบการณ์ เครื่องมือที่ครบถ้วน พร้อมทั้งมาตรฐานโรงพยาบาล ทำให้สามารถมั่นใจได้ว่าผลลัพธ์จะออกมาตามที่ต้องการ

แชร์เลย: