เสริมหน้าอกอันตรายไหม เสริมครั้งแรก ควรรู้อะไรบ้าง ?
การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน เป็นที่นิยมสำหรับผู้หญิงที่ต้องการเพิ่มขนาด ปรับรูปทรง และเพิ่มความมั่นใจ แต่เช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่นๆ การเสริมหน้าอกก็มีความเสี่ยง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ก่อนตัดสินใจเสริมหน้าอก สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูล เตรียมตัวให้พร้อม และเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่น่าพอใจหลังทำ ในบทความนี้ เราจะมาไขข้อสงสัย เกี่ยวกับความเสี่ยง สิ่งที่ควรรู้ และวิธีเช็คซิลิโคนของแท้ เพื่อให้คนไข้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจก่อนตัดสินใจศัลยกรรมเสริมหน้าอกกันนะคะ
ซิลิโคนเสริมหน้าอกมีกี่รูปทรง
ซิลิโคนเสริมหน้าอกมีรูปทรงที่หลากหลายในปัจจุบัน เพื่อตอบสนองความต้องการ และความเหมาะสมกับร่างกายของแต่ละบุคคล เสริมทั้งที่ต้องเลือกให้ดี เพราะถ้าเลือกผิดซิลิโคนที่ใช้นั้นมีผลกับรูปทรงของหน้าอกหลังเสริมเป็นอย่างมาก โดยซิลิโคนเสริมหน้าอกมี 3 รูปทรงหลัก ๆ ที่นิยมใช้ใน ดังนี้
1. ทรงกลม (Round Implants)
ลักษณะ มีรูปร่างกลม สามารถเพิ่มความเต็มอิ่มให้กับส่วนบนของหน้าอกได้ดี เน้นเนินหน้าอกให้ชัด เหมาะสำหรับสาว ๆ สายฝอ ข้อดี
- เพิ่มความโค้งมนและความเต็มอิ่มให้กับหน้าอกได้อย่างชัดเจน
- เมื่อเกิดการเคลื่อนที่หรือหมุนของซิลิโคน รูปทรงจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้หน้าอกดูใหญ่ขึ้นและชัดเจน
2. ทรงหยดน้ำ (Teardrop or Anatomical Implants)
ลักษณะ มีรูปร่างคล้ายหยดน้ำ โดยมีความเต็มอยู่ที่ฐานและด้านบนมีความแบน ทรงนี้จะให้หน้าอกที่ชิดสวย และยังดูมีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ท่ีไม่ต้องการเนินอกที่ชัดมาก หน้าอกดูไม่เป็นบล้อคมากจนเกินไป ข้อดี
- ให้ความเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะในท่ายืน จะทิ้งตัวสวยตามแรงโน้มถ่วง
- รูปทรงคล้ายกับลักษณะธรรมชาติของหน้าอก โดยฐานกว้างและส่วนบนแบน
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้หน้าอกดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เหมือนไม่ได้เสริมซิลิโคน
วิธีเช็คซิลิโคนเสริมหน้าอก
การเช็คซิลิโคนเสริมหน้าอก ว่าเป็นของแท้หรือของปลอม เป็นสิ่งที่จำเป็นมากเพราะซิลิโคนที่ใช้ต้องอยู่ในร่างกายของเราเป็นระยะเวลานานมากกว่า 10 ปี หากเสริมซิลิโคนปลอม จะมีปัญหาซิลิโคนตามมาในภายหลังแน่นอนถ้าหากเลือกใช้ซิลิโคนที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยวิธีการเช็คซิลิโคนเสริมหน้าอกว่าเป็นของแท้หรือของปลอม เบื้องต้นสามารถสังเกตได้จากปัจจัย ดังนี้
- ชื่อ-นามสกุลผู้ผ่าตัด
- ชื่อศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัด
- สถานที่ ที่เข้ารับการผ่าตัด
- วันที่เข้ารับการผ่าตัด
- serial number ของซิลิโคน ทั้ง 2 ใบ ต้องเป็นเลขเดียวกัน
- ราคาสมเหตุสมผลไม่ถูกจนเกินไป
- ซิลิโคนได้ผ่านการรับรองมาตรฐานตามที่ อย. กำหนด ซึ่งสามารถเช็คไดที่เว็ปไซต์ สํานักงานกรรมการอาหารและยา
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการเสริมหน้าอก
การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน เป็นการผ่าตัดเสริมความงามที่ได้รับความนิยม ช่วยเพิ่มขนาด ปรับรูปทรง และความมั่นใจให้กับผู้หญิง แต่เช่นเดียวกับการผ่าตัดอื่นๆ การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน ก็มีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยความเสี่ยงที่อาจพบหลังได้รับการเสริมหน้าอก มีดังนี้
1.อาการปวด บวม แดง ช้ำ
เป็นอาการปกติหลังการผ่าตัด เกิดจากการอักเสบและบวมของเนื้อเยื่อ มักจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1 – 2 สัปดาห์ โดยแพทย์จะสั่งยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบให้ และแนะนำวิธีประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม ในบางกรณี อาจมีอาการบวมนาน 3 – 6 เดือน จนกว่าเนื้อเยื่อจะฟื้นตัวเต็มที่
2.การติดเชื้อ
เกิดจากการที่แผลผ่าตัดสัมผัสกับเชื้อแบคทีเรีย มักมีอาการปวด บวม แดง ร้อน หนองไหลแพทย์จะทำการล้างแผล ให้ยาฆ่าเชื้อ และอาจต้องสั่งยาปฏิชีวนะให้
3.เลือดออก
อาจเกิดเลือดออกหลังการผ่าตัด มักพบได้น้อย แพทย์จะทำการหยุดเลือด ในบางกรณี อาจมีเลือดคั่งสะสมใต้ผิวหนัง แพทย์อาจต้องดูดเลือดออก
4.รอยแผลเป็น
ทุกการผ่าตัดย่อมมีรอยแผลเป็น แต่แผลเป็นจากการเสริมหน้าอกมักจะซ่อนอยู่ใต้ราวนม มองไม่เห็นชัด รอยแผลเป็นจะค่อยๆ จางลงภายใน 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล แพทย์จะแนะนำวิธีดูแลแผลเป็นเพื่อให้รอยแผลเป็นดูจางลง
5.อาการชาหรือสูญเสียความรู้สึก
อาจรู้สึกชาหรือสูญเสียความรู้สึกบริเวณหัวนมหรือผิวหนังหน้าอก เกิดจากการกระทบต่อเส้นประสาท อาการเหล่านี้มักจะหายไปเองภายใน 1 – 2 เดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการบาดเจ็บ แพทย์อาจสั่งยาทานเพื่อบรรเทาอาการชา
6.อาการแพ้ยา
อาจเกิดอาการแพ้ยาชา ยาที่ใช้ระหว่างการผ่าตัด หรือยาที่ใช้หลังการผ่าตัด อาการแพ้ยาอาจมีตั้งแต่รุนแรงน้อย เช่น ผื่นคัน ลมพิษ ไปจนถึงรุนแรงมาก เช่น หายใจลำบาก แพทย์จะทำการรักษาตามอาการ
วิธีเลือกสถานพยาบาลในการผ่าตัดศัลยกรรมที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
การเลือกสถานพยาบาลสำหรับการผ่าตัดศัลยกรรม เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมีผลต่อความปลอดภัย ผลลัพธ์ และสุขภาพโดยรวมของคุณ ดังนั้น ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่า กำลังเลือกสถานพยาบาลที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และพร้อมมอบผลลัพธ์ที่น่าประทับใจเพื่อตัดคำถามที่ว่าเสริมหน้าอก อันตรายไหมออกไป โดยวิธีในการเลือกสถานพยาบาลที่ปลอดภัย และได้มาตรฐาน มีดังนี้
1. ใบอนุญาตประกอบกิจการ
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสถานพยาบาลนั้น ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้อง
- ใบอนุญาตควรอยู่ในสภาพดี ไม่เก่า ฉีกขาด หรือมีรอยดัดแปลง
2. แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- เลือกสถานพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่ง โดยเฉพาะแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการผ่าตัดศัลยกรรมที่คุณต้องการ
- ตรวจสอบประวัติการศึกษา การฝึกอบรม และผลงานของแพทย์
- ปรึกษาแพทย์หลายๆ ท่าน เพื่อเปรียบเทียบความรู้ ประสบการณ์ และวิธีการผ่าตัด
3. ห้องผ่าตัด
- ห้องผ่าตัดควรมีความสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน มีเครื่องมือและอุปกรณ์ครบครัน
- สถานพยาบาลควรมีระบบฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
4. เทคโนโลยี
- สถานพยาบาลควรมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย รองรับการผ่าตัดศัลยกรรมที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และได้ผลลัพธ์ที่ดี
- สอบถามเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้ เปรียบเทียบกับสถานพยาบาลอื่นๆ
5. รีวิว
- ศึกษารีวิวจากผู้เข้ารับบริการจริง ทั้งในเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือจากผู้ใกล้ชิด
- พิจารณาความน่าเชื่อถือของรีวิว เปรียบเทียบทั้งแง่ดี แง่ลบ
6. ราคา
- เปรียบเทียบราคาค่าผ่าตัดจากสถานพยาบาลหลายแห่ง พิจารณาให้รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าตรวจ ค่ายา ค่าห้อง
- อย่าตัดสินใจเลือกสถานพยาบาลจากราคาเพียงอย่างเดียว ควรให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ผลลัพธ์ และบริการมากกว่า
7. บริการ
- สถานพยาบาลควรมีบริการที่ดี ใส่ใจผู้เข้ารับบริการ ให้คำปรึกษาอย่างละเอียด ตอบคำถามอย่างชัดเจน
- พนักงานควรมีความสุภาพ บริการประทับใจ