5 ภัยร้ายหลังเสริมจมูกด้วยซิลิโคน !!

5 ภัยร้ายหลังเสริมจมูกด้วยซิลิโคน

ทุกวันนี้การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในสังคมปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะด้วยราคาที่ถูกและพักฟื้นไม่นาน ทำให้หลายคนเลือกวิธีนี้ในการเสริมจมูกเพื่อเพิ่มความโด่งพุ่งให้กับใบหน้า แต่จะมีซักกี่คนที่รู้ถึงภัยร้ายที่แฝงมากับการเสริมจมูกด้วยวิธีนี้ วันนี้โรงพยาบาลมาสเตอร์พีซ ได้รับเกียรติจากคุณหมอเบนซ์ (นพ.โฆษิต เอี้ยวฉาย) ผู้มีประสบการณ์ด้านการศัลยกรรมตกแต่ง ที่เรียกได้ว่าใครไม่ว่าจะมีปัญหาจมูกแบบไหน คุณหมอก็ดีไซน์ให้ใหม่ได้แบบสวยจบในครั้งเดียว โดยคุณหมอมาให้ความรู้เกี่ยวกับ ภัยร้ายหลังเสริมจมูกด้วยซิลิโคน กันค่ะ

มีโอกาสจมูกเอียงได้มาก

1.มีโอกาสจมูกเอียงได้มาก

โดยธรรมชาติคนส่วนใหญ่จะมีแกนจมูกที่เอียงกันอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเอียงมากหรือเอียงน้อย การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนเพียงอย่างเดียว ซิลิโคนอาจเน้นให้เห็นว่าจมูกเอียงมากกว่าเดิมได้ ดังนี้จึงต้องแก้ไขที่ภายในแกนจมูกเพื่อให้จมูกไม่เอียงและรูปทรงสวยงาม แต่ในบางกรณีการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนก็อาจเกิดโอกาสเอียงจากตัวซิลิโคนได้เช่นกัน อาจเกิดได้จากแพทย์ที่ยังไม่ชำนาญการณ์ เซาะโพรงจมูกมากเกินไป เมื่อใส่ซิลิโคนเข้าไปก็ทำให้ตัวซิลิโคนเลื่อนไหลได้ หรืออาจเกิดจากการไม่ระมัดระวังของคนไข้หลังการเสริมจมูก เพราะผิวของซิลิโคนนั้นมีความเรียบเนียน ทำให้ซิลิโคนไม่ยึดเกาะกับเนื้อเยื่อจมูก

ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้

2.ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้

ในผู้ที่เสริมจมูกซิลิโคนใหม่ๆ ร่างกายจะเริ่มสร้างพังผืด เพื่อยึดเกาะซิลิโคน เพราะซิลิโคนเป็นสารแปลกปลอมในร่างกาย ฉะนั้นช่วงหลังจากที่เสริมจมูกแรกๆ จะเป็นช่วงที่ Sensitive มาก การที่เป็นโรคภูมิแพ้นั้น เป็นการที่ร่างกายทำปฏิกิริยากับสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น แพ้เกสรดอกไม้ หรือแพ้ขนสัตว์ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการจาม คันที่บริเวณตาและจมูก สิ่งนี้จึงสำคัญกับผู้ที่ต้องการเสริมจมูก เพราะการจามหรือขยี้จมูกบ่อย ๆ จะทำให้ซิลิโคนที่ยังไม่เข้าที่เกิดการกระแทกกับเนื้อเยื่อ ทำให้จมูกนั้นเกิดอาการบวมอักเสบ หรือมีเลือดออก และอาจส่งผลให้จมูกติดเชื้อและทะลุได้ในอนาคต

อาจทำให้เกิดอาการแพ้ซิลิโคน

3.อาจทำให้เกิดอาการแพ้ซิลิโคน

เนื่องจากซิลิโคนนั้นมีความแข็งและไม่ยืดหยุ่นเท่าที่ควร ในตัวซิลิโคนจึงมีการผสมสารต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความอ่อนนุ่มให้กับตัวซิลิโคน ยิ่งมีสารเคมีผสมในตัวซิลิโคนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้เกิดอาการแพ้ได้มากขึ้นเท่านั้น สังเกตได้จากเมื่อเสริมซิลิโคนเข้าไปที่จมูกแล้ว เกิดอาการบวมแดง เป็นๆ หายๆ หรือมีสิวเม็ดเล็ก ๆ ขึ้นอยู่ตลอด ซึ่งการบวมแดงในแต่ละครั้งไม่มีอาการเจ็บหรือเสียวแปลบที่ปลายจมูก เมื่อนานไปอาจทำให้จมูกติดเชื้อและทะลุได้

เมื่อเสริมไปนาน ๆ จะทำให้เกิดพังผืด และหินปูนสะสม-

4.เมื่อเสริมไปนาน ๆ จะทำให้เกิดพังผืด และหินปูนสะสม

เพราะซิลิโคนเป็นวัสดุที่เป็นสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย ร่างกายจึงสร้างพังผืดมาหุ้ม เมื่อมีพังผืดมาหุ้มจึงทำให้เกิดหินปูนมาเกาะรอบ ๆ บริเวณพังผืด เมื่อปล่อยให้นานไปหินปูนที่มาเกาะก็ใหญ่ขึ้น และทำให้ผิวจมูกเมื่อดูจากภายนอก ดูตะปุ่มตะป่ำขรุขระ ไม่เรียบเนียน และดูน่าเกลียด การแก้จมูกใหม่ด้วยการเสริมซิลิโคนก็ไม่สามารถทำให้หินปูนหายไปได้ จึงต้องใช้เทคนิคพิเศษและวัสดุที่ร่างกายยอมรับได้เพื่อช่วยลดการเกิดพังผืด และการเกิดหินปูนได้เป็นอย่างมาก

เสี่ยงทะลุได้ในอนาคต

5.เสี่ยงทะลุได้ในอนาคต

ในปัจจุบันซิลิโคนมีหลากหลายรูปแบบ เพื่อเสริมให้จมูกโด่งพุ่งตามที่ต้องการ แต่ใครจะรู้ว่าซิลิโคนที่ใส่ไปนั้นจะทำให้เกิดปัญหา ถึงขั้นทะลุได้ในอนาคต แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เสริมจมูกแล้วจะเกิดอาการทะลุ ส่วนใหญ่อาการทะลุเกิดจากคนที่เสริมซิลิโคนที่ยาวเกินไปไม่พอดีกับรูปจมูก เมื่อผ่านไปนาน ๆ ซิลิโคนจะไปกดทับเนื้อเยื่อปลายจมูก ทำให้เนื้อเยื่อปลายจมูกบางและทะลุได้ ทั้งนี้การเสริมซิลิโคนร่วมกับกระดูกอ่อนหลังหู ก็ไม่ได้ช่วยกันทะลุแต่อย่างใด หนำซ้ำอาจยิ่งเร่งเวลาทะลุให้เร็วขึ้น หากเสริมด้วยซิลิโคนที่ไม่พอดีกับขนาดจมูกเหมือนเดิม

จะเห็นได้ว่าการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดซ้ำยังแฝงด้วย ภัยร้ายหลังเสริมจมูกด้วยซิลิโคน  สำหรับผู้ที่ต้องการให้จมูกเรียวโด่งพุ่งแบบครั้งเดียวจบ แต่การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนนั้นเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และแก้ไขได้ง่ายหากเกิดปัญหาขึ้นมาในอนาคต ทั้งนี้วิทยาการทางการแพทย์มีหลากหลายมากขึ้น การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนอาจไม่ตอบโจทย์ ถ้าหากคนไข้มีจมูกที่ไม่สวยงามตั้งแต่แรก ฉะนั้นก่อนคิดจะเสริมจมูกทุกครั้ง ควรศึกษาและปรึกษาแพทย์เฉพาะด้านการตกแต่งจมูกโดยเฉพาะเพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาตรงใจ และดีที่สุดกันนะคะ

แชร์เลย: