ผ่าตัดขากรรไกร เลื่อนขากรรไกร แก้โครงหน้าเบี้ยว เอียง ยื่น
ผ่าตัดขากรรไกร เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขความผิดปกติของกระดูกขากรรไกรและใบหน้า ซึ่งอาจเกิดจากพันธุกรรม หรืออุบัติเหตุ ทำให้เกิดปัญหาในการเคี้ยว การพูด หรือความไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ใบหน้า การผ่าตัดนี้จะช่วยปรับตำแหน่งของกระดูกขากรรไกรให้สมดุลมากขึ้น ส่งผลให้ใบหน้ามีความสวยงามตามธรรมชาติ และฟังก์ชันการทำงานของขากรรไกรเป็นปกติ หากคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างของขากรรไกรเบี้ยว และต้องการแก้ไขเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น บทความนี้จะไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการผ่าตัดขากรรไกรอย่างละเอียด ทั้งในแง่ของกระบวนการผ่าตัด เลื่อนขากรรไกร การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด การดูแลหลังผ่าตัด และผลลัพธ์ที่คาดหวัง
ในบทความนี้จึงอยากพาคนไข้ไปทำความรู้จักเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “การศัลยกรรมปรับโครงหน้า” โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด ว่าแต่การศัลยกรรมด้วยการผ่าตัดขากรรไกรสามารถแก้ไขปัญหาได้จริงหรอ และมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันนะครับ
การผ่าตัดขากรรไกรคืออะไร?
การศัลยกรรม ผ่าตัดขากรรไกร คือ การผ่าตัดเพื่อปรับตำแหน่งบริเวณกระดูกขากรรไกรใหม่ ทั้งส่วนขากรรไกรบน และขากรรไกรล่าง ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับรูปทรงใบหน้าของคนไข้ จะช่วยเพิ่มความสวยงามให้ใบหน้า อีกทั้งยังส่งเสริมให้ขากรรไกรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภายอีกด้วยครับ
นอกจากเรื่องความสวยความงามแล้ว การผ่าตัดปรับขากรรไกรยังสามารถช่วยปรับโครงหน้าของคนไข้ให้สมดุลยิ่งขึ้น จากปัญหาขากรรไกรรเบี้ยวต่าง ๆ โดยต้องอาศัยศัลยแพทย์ที่เข้าใจเรื่องของกายวิภาค มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อให้สามารถผ่าตัดปรับโครงหน้าได้อย่างละเอียด ออกมาตามความต้องการของคนไข้ได้อย่างถูกต้อง และเป็นที่พึ่งพอใจครับ
ส่วนอาการที่พบได้บ่อย เช่น อาการหน้าเบี้ยว หน้าเอียง เป็นผลมาจากความผิดปกติของขากรรไกรยื่นออกมาผิดปกติครับ จึงทำให้โครงสร้างใบหน้ามีลักษณะเบี้ยวเอียง แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะครับ เพราะสามารถแก้ไขได้โดยการผ่าตัดศัลยกรรม ซึ่งจะสามารถทำให้รูปทรงใบหน้ากลับมาเป็นปกติได้นั่นเองครับ
สาเหตุที่ทำให้ขากรรไกรเบี้ยว
สัดส่วนใบหน้าที่ไม่เท่ากัน หรือหน้าเบี้ยวนั้น เกิดได้จากภาวะความผิดปกติที่ข้อต่อบริเวณ ขากรรไกรล่าง กับฐานกระโหลกศีรษะไม่สมดุลกัน จึงทำให้สังเกตได้ชัดเจนว่าไม่สมมาตร ซึ่งปัญหาดังกล่าวสามารถส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมาก เช่น รับประทานอาหารลำบากกว่าเดิม, หุบปากไม่สนิท, มีอาการกรามค้าง หรือเวลายิ้มจะทำให้ปากดูไม่เท่ากัน สามารถทำให้สูญเสียความมั่นใจได้อย่างมากเลยครับ
ซึ่งวิธีแก้ไขก็คือการผ่าตัดปรับโครงหน้า เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตามมา ส่วนสาเหตุที่ทำให้ขากรรไกรเบี้ยวก็มีอยู่หลายปัจจัย มีอะไรบ้างไปดูกันได้เลยครับ
- กรรมพันธ์ุ
เป็นหนึ่งสาเหตุหลักที่ส่งผลทำให้โครงสร้างใบหน้าของคนไข้มีโอกาสที่ไม่เท่ากัน หรือเบี้ยวเอียงได้
- ภาวะข้อเสื่อม
ภาวะข้อเสื่อมนั้น อาจส่งผลทำให้ขากรรไกรส่วนล่างมีความผิดปกติ ได้อย่างชัดเจน เช่น พูดไม่ชัด ปากปิดไม่สนิท หรือเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด
- การอุบัติเหตุบริเวณขากรรไกร
เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็อาจส่งผลทำให้ขากรรไกรมีความผิดปกติได้เช่นกัน เนื่องจากเกิดการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
- พฤติกรรมส่วนตัว
พฤติกรรมที่ทำอย่างต่อเนื่องจนเกิดความเคยชิน ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ขากรรไกรเบี้ยวได้ครับ โดยพบว่าคนไข้ส่วนใหญ่ที่มีความผิดปกติจะมีพฤติกรรม เช่น ชอบนั่งเท้าคางตลอดเวลา หรือมักนอนกัดฟันตัวเองบ่อย ๆ
- การเคี้ยวอาหารข้างเดียว
ตั้งแต่เล็กจนโตคนเรามักถูกสอนให้เคี้ยวอาหารให้ละเอียดแล้วค่อยกลืน แต่ก็มีคนไข้บางประเภทที่มักจะมีพฤติกรรมเคี้ยวอาหารเพียงข้างเดียว นั้นจึงเป็นสาหตุที่ทำให้ระบบประสาทฝั่งที่ไม่ได้ใช้งานไม่เกิดการตอบสนองจนอาจทำให้เสื่อมสภาพได้เช่นกันครับ
- ทานอาหารที่แข็งมาก ๆ
ฟันถือว่าเป็นอวัยวะที่แข็งแรงที่สุด การทานอาหารที่เป็นของแข็งมาก ๆ อาจไม่ทำให้ฟันเสียหายมาก แต่จะส่งผลไปยังขากรรไกรที่ออกแรงเคี้ยว เพราะอาจทำให้เกิดภาวะกรามขาค้าง หรือขากรรไกรเคลื่อนหลุดได้ครับ
ฝึกสังเกตภาวะขากรรไกรเบี้ยวมีอะไรบ้าง
ใคร ๆ ก็อยากมีใบหน้าที่สวยสมบูรณ์แบบ แต่เมื่อเกิดความผิดปกติบนใบหน้าเราก็สามารถสังเกตได้ชัดถึงสัดส่วนที่เกิดความเปลี่ยนแปลง โดยวันนี้ผมจะพาคนไข้ทุกท่านไปฝึกสังเกตความผิดปกติดังกล่าว ที่อาจส่งผลทำให้ใบหน้าไม่สมมาตรกัน เคี้ยวอาหารลำบาก หรือยิ้มแล้วดูแปลก ๆ จากปัญหาที่เรียกว่าขากรรไกรเบี้ยว ดังนี้
- จากเส้นผ่านศูนย์กลางบนใบหน้าให้ลองสังเกตดูว่าคางฝั่งซ้าย – ขวา มีขนาดเท่ากันหรือไม่
- จากเส้นผ่านศูนย์กลางบนใบหน้าให้ลองสังเกตดูว่าใบหน้าของคนไข้มีฝั่งซ้าย หรือขวาที่ยื่นออกไปมากกว่ากัน
- จากเส้นผ่านศูนย์กลางบนใบหน้าให้ลองสังเกตดูว่า มีภาวะหน้าเบี้ยงเอียง หรือปากยืนไปฝั่งใดฝั่งหนึ่งมากกว่ากันไหม
- จากเส้นผ่านศูนย์กลางบนใบหน้าให้ลองสังเกตดูโครงหน้าด้านซ้าย – ขวา มีขนาดเท่ากันหรือไม่
หากคนไข้ท่านใดลองสังเกตดูแล้วมีความผิดปกติบนใบหน้าตามหัวข้อทั้ง 4 หรือหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง อาจกำลังเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่าขากรรไกรเบี้ยวนะครับ แต่ไม่ต้องวิตกกังวลไป เพราะปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ร่วมถึงมีทีมศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะทางสามารถผ่าตัดปรับโครงหน้าให้กลับมาได้ดั่งเดิมครับ
ใครบ้างที่เหมาะกับการผ่าตัดขากรรไกร
สำหรับคนไข้ที่ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับความผิดปกติของขากรรไกรตัวเอง วันนี้ผมมีข้อมูลดี ๆ มานำเสนอ เพื่อช่วยหาทางแก้ไขปัญหาให้ทันท่วงที โดยจะบอกถึงว่าใครที่เหมาะกับการผ่าตัดขากรรไกรบ้างดังนี้
- คนไข้ที่มีโครงสร้างใบหน้าส่วนล่างเบี้ยว หรือไม่สมส่วนกัน สามารถผ่าตัดศัลยกรรมขากรรไกรได้ครับ
- คนไข้ที่คางมีลักษณะใบหน้า หรือคางเบี้ยวเอียงจนสามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน จะเหมาะกับการผ่าตัดขากรรไกรครับ
- คนไข้ที่มีภาวะพูดไม่ชัดคำ หรือทำให้บุคคลอื่นเกิดความเข้าใจผิดในบทสนทนา อาจเกิดจากความผิดปกติของขากรรไกร สามารถผ่าตัดได้ครับ
- คนไข้ที่มีปัญหาเวลารับประทานอาหารแล้วเคี้ยวไม่ละเอียด จากภาวะขากรรไกรไม่เท่ากัน สามารถผ่าตัดได้ครับ
- คนไข้ที่เวลายิ้มแล้วจะเห็นเหงือกได้อย่างเด่นชัด หรือเห็นส่วนของเหงือกเยอะ สามารถผ่าตัดปรับโครงหน้าได้ครับ
ผ่าตัดขากรรไกรทำร่วมกับการจัดฟันได้ไหม
การผ่าตัดขากรรไกรร่วมกับการจัดฟัน หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า ( Orthognathic Surgery ) สามารถทำได้ครับ เพราะปัญหาส่วนใหญ่ของขากรรไกรไม่ได้รูปอาจเกี่ยวเนื่องกับฟันที่ไม่เข้าที่ จึงสามารถทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ ดังนั้นการจัดฟันสามารถทำร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกรได้อย่างแน่นอนครับ โดยมีวิธีการอยู่ 2 แบบดังนี้
- ผ่าตัดก่อนจัดฟัน
ถือว่าเป็นวิธีที่กำลังเป็นกระแสในปัจจุบัน เพราะไม่ต้องรอจัดฟันเพื่อต้องรอการผ่าตัด 1 – 2 ปี แต่เป็นการผ่าตัด แล้วค่อยจัดฟันทีหลัง ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาได้อย่างมาก แต่ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการประเมินโครงสร้างให้ละเอียด เพราะหลังจากผ่าตัดไปแล้วจะต้องให้แพทย์ทำการจัดฟันต่อครับ
- จัดฟันก่อนผ่าตัด
เป็นเทคนิคดั้งเดิมที่สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ได้อย่างดี เนื่องจากเป็นวิธีรักษาด้วยการจัดฟัน เพื่อแก้ไขความผิดปกติของฟันให้เรียบร้อยก่อน แล้วทิ้งเวลาไว้สัก 1 – 2 ปี แล้วจึงค่อยมาผ่าตัดขากรรไกรต่อครับ
ซึ่งทั้ง 2 วิธีนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ และต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการประเมินอย่างละเอียดถี่ถ้วน จะได้เป็นการประกอบการตัดสินใจว่าควรผ่าตัดก่อนจัดฟัน หรือจัดฟันก่อนแล้วค่อยผ่าตัดขากรรไกรนั่นเองครับ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดขากรรไกร
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดศัลยกรรมขากรรไกรนั้น คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้สภาพร่างกายมีความพร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัด โดยมีข้อปฏิบัติสำคัญต่าง ๆ ดังนี้
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับโรคประจำตัว หรือยาที่กำลังทานเพื่อรักษาโรคต่าง ๆ อย่างละเอียด เนื่องจากยาบางชนิดสามารถส่งผลได้ในขั้นตอนการผ่าตัดครับ
- ควรงดน้ำ และอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากจะมีการวางสลบ อาจทำให้คนไข้เกิดการสำลักน้ำ หรืออาหารได้ขณะผ่าตัด
- งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อป้องกันเส้นเลือดหดตัว
- งดการทำศัลยกรรมทุกชนิดบนใบหน้า ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 6 เดือน เพราะอาจทำให้เสื่อมสภาพได้เร็วครับ
- งดการทานวิตามิน หรืออาหารเสริมทุกชนิดอย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ เพราะมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- ควรแปรงฟัน หรือบ้วนปากให้สะอาด ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อภายในช่องปากครับ
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดขากรรไกร
ภายหลังจากที่คนไข้เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมขากรรไกรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลำดับต่อมาก็คือข้อปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยให้แผลบริเวณช่องปากหายได้เร็วขึ้น รวมถึงป้องกันภาวะติดเชื้อได้อีกด้วย โดยมีสิ่งสำคัญที่ควรทำตามอย่างสม่ำเสมอดังนี้
- แนะนำให้คนไข้ประคบเย็นด้วย เจลเย็น หรือผ้าชุบน้ำเย็นในช่วง 1 สัปดาห์แรก เพื่อลดอาการบวมบริเวณผ่าตัดครับ
- ควรรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจนกว่าแผลจะหายสนิท
- แนะนำให้นอนหนุนหมอนที่สูงกว่าปกติ ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อช่วยให้แผลยุบบวมเร็วยิ่งขึ้นครับ
- แนะนำให้คนไข้พยายามกัดฟันให้ลงตำแหน่งตามเฝือกสบฟัน เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนที่รุนแรง
- แนะนำให้คนไข้ดูแลทำความสะอาดช่องปาก และแผลด้วยแปรงสีฟันขนาดเล็กอย่างอ่อนโยนจะสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ครับ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรม หรือการออกกำลังกาย ประมาณ 1 เดือน เพราะเวลาออกแรงอาจมีการเกร็งบริเวณช่องปาก ซึ่งจะส่งผลทำให้แผลผ่าตัดฉีกขาดได้ครับ
ผลข้างเคียงจากการผ่าตัดขากรรไกร
สำหรับคนไข้ที่ต้องการแก้ไขความผิดปกติของการสบฟันของขากรรไกร บน – ล่าง ไม่เท่ากันด้วยการจัดฟันเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ แพทย์ส่วนใหญ่จึงแนะนำให้รักษาด้วยการศัลยกรรมร่วมด้วย เพื่อปรับโครงสร้างให้ขากรรไกรกับมาสมดุลมากที่สุด แต่เพราะทุกการศัลยกรรมย่อมมีผลข้างเคียง และความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น คนไข้จึงควรรู้อาการเบื้องต้นของผลข้างเคียงจากการผ่าตัดขากรรไกร ดังนี้
- ภาวะการติดเชื้อจากแผลผ่าตัด เป็นภาวะที่พบได้น้อย แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นหาก แพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญในการรักษา ร่วมถึงคนไข้ไม่ปฏิบัติตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัดครับ
- มีอาการชาบริเวณคาง หรือริมฝีปาก อาจเกิดจากเส้นประสาทได้รับความเสียหาย ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งระยะสั้น หรือยาวก็ได้ แต่จะสามารถหายได้เองประมาณ 3 – 12 เดือน
- ผลกระทบที่รุนแรงจากการผ่าตัด ก็คืออาจเกิดการคืนตัวของกระดูก ทำให้รูปร่างขากรรไกร หรือฟันที่สบกันกลับไปเป็นดั่งเดิม หากเกิดกรณีนี้แนะนำให้รีบกลับไปหาแพทย์โดยด่วน
ผ่าตัดขากรรไกรพักฟื้นกี่วัน
การผ่าตัดขากรรไกรพักฟื้นกี่วัน เต้องใช้เวลาพักฟื้นค่อนข้างนานค่ะ เพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่ ระยะเวลาในการพักฟื้นจะแตกต่างกันไปโดยทั่วไปแล้ว การพักฟื้นหลังการผ่าตัดจะใช้เวลาประมาณ 6-12 สัปดาห์
ผ่าตัดขากรรไกร มาสเตอร์พีช ?
การตัดสินใจทำศัลยกรรมเป็นเรื่องใหญ่ และการผ่าตัดขากรรไกรก็เช่นกัน การเลือกสถานพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญและมีมาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญ โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมในการทำศัลยกรรมโครงหน้า รวมถึงการผ่าตัดขากรรไกร
โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชมีทีมแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมโครงหน้าโดยเฉพาะ มีประสบการณ์ในการผ่าตัดขากรรไกร เลื่อนขากรรไกร มาอย่างยาวนาน ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องของผลลัพธ์ที่สวยงาม พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำสูง ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น และมีทีมงานคอยดูแลให้คำแนะนำหลังการผ่าตัด เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับศัลยกรรมผ่าตัดขากรรไกร
มีการติดตามผลไหม หลังจากผ่าตัดขากรรไกร
ระยะเวลาในการติดตามผลจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและความซับซ้อนของการผ่าตัด โดยทั่วไปจะต้องมีการติดตามผลเป็นระยะๆ อย่างน้อย 1 ปี หรืออาจมากกว่านั้น
ผ่าตัดขากรรไกร เจ็บไหม
ในระหว่างการผ่าตัดจะได้รับการดมยาสลบ จึงไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ หลังการผ่าตัด อาจมีอาการปวด บวม ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แพทย์จะให้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ