แก้ไขหูกาง (Otoplasty)
การผ่าตัดแก้ไขปัญหาหูกาง ถ้าเทียบกับคนทั่วไปน้อยมากที่จะเห็นคนหูกาง ซึ่งหูกางมักเกิดได้ตั้งแต่เด็ก เพราะส่วนหนึ่งถ่ายทอดทางพันธุกรรม ธรรมชาติของผู้หญิงจะมีการทัดหู มัดผม ทำผมทรงสวยๆ ที่โชว์ใบหู แต่ผู้หญิงที่หูกางเขาต้องปกปิดจุดด้อยด้วยการปล่อยผมให้ปิดมิดชิด ไม่สามารถทำผมที่โชว์ใบหูได้ ผู้หญิงหลายคนจึงหันมา แก้ไขหูกาง เพื่อลบจุดด้อยของตัวเองมากขึ้น ผู้ที่เหมาะสมต่อการศัลยกรรมหูกาง บุคคลที่มีปัญหาใบหูทั้งสองข้างที่กางออกมากเกินไปจนทำให้ใบหูดูเด่นเกินไป ทำให้รู้สึกสูญเสียความมั่นใจในตนเอง
ทำไมต้องศัลยกรรม แก้ไขหูกาง กับมาสเตอร์พีซ
- การศัลยกรรมแก้หูกาง นั้นจำเป็นต้องผ่าตัดกับแพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทางเท่านั้น
- ต้องใช้ทั้งความรู้ความเชี่ยวชาญ และศิลปะการออกแบบโครงสร้างใบหูให้รับกับใบหน้า ซึ่งเป็นทักษะของแพทย์ผ่าตัดศัลยกรรมเท่านั้น
- ทีมแพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทางที่มีประสบการณ์การผ่าตัดตกแต่งมากกว่า 15 ปี พร้อมการบริการที่ได้รับมาตรฐานตามหลักสากล
วิธีการศัลยกรรม
- ศัลยแพทย์จะทำการออกแบบโครงสร้างใบหูให้รับกับใบหน้า และทำการฉีดยาชาบริเวณใบหู ก่อนจะทำแนวเส้นผ่าตัดที่ด้านหลังใบหู
- หลังยาชาออกฤทธิ์แล้ว แพทย์จะทำการกรีดเปิดแผลบริเวณหน้าหรือหลังใบหูของผู้เข้ารับการรักษา (โดยส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะทำการผ่าตัดหลังใบหู เพราะจะเห็นรอยแผลเป็นหลังผ่าตัดได้ยาก เนื่องจากแผลจะซ่อนอยู่บริเวณหลังใบหู และมีขนาดเล็กเพียง 1-2 ซม. เท่านั้น)
- ผิวหนังส่วนหนึ่งจะถูกตัดออก และทำการดึงผิวหนังบริเวณแนวเส้นผ่าตัดแนบเข้าหากัน และเย็บให้ติดกันเพื่อเป็นการดึงใบหูให้เข้ามาแนบชิดศีรษะมากขึ้น และอาจจะมีการปรับโครงสร้างกระดูกอ่อนร่วมด้วย
การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรม
- แจ้งข้อมูลหากมีโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา หรือหากมีอาการเจ็บป่วยก่อนวันผ่าตัด กรุณาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนวันผ่าตัดอย่างน้อย 1 – 3 วัน
- งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
- ควรงดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่าน้อง 7 – 14 วันก่อนผ่าตัด
- งดใส่คอนแทคเลนส์, แต่งหน้า, ทาเล็บ, ทาโลชั่น, หรือใส่เครื่องประดับและของมีค่าในวันผ่าตัด
- วันผ่าตัดแนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย สะดวกต่อการถอดและสวมใส่
- ควรมีผู้ติดตามหรือญาติมาด้วยในวันผ่าตัด
การดูแลหลังการศัลยกรรม
- หลังผ่าตัดต้องใส่ Face Support รัดบริเวณใบหูตลอดเวลาเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- เลี่ยงการโดนน้ำบริเวณแผลอย่างน้อย 3 วันขึ้นไป (สามารถสระผมได้ 3 วันขึ้นไปหลังผ่าตัด แต่ต้องเช็ดทำความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัดให้แห้ง หากผ้ากอซปิดแผลเปียก ควรเปลี่ยนใหม่ทันที)
- หลังการผ่าตัดควรงดออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ต้องมีการกระทบกระเทือนศีรษะอย่างน้อย 2 สัปดาห์ขึ้นไป
- งดเว้นการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการสูบบุหรี่ อย่างน้อย 4 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายดี
- หากมีเลือดออกผิดปกติ ควรเข้ามาพบแพทย์ทันที
- ติดตามผลการผ่าตัด (Follow-Up) ภายในระยะเวลา 7 วัน เพื่อตัดไหมและตรวจเช็คผลลัพธ์