รีแพร์กระชับผลลัพธ์จุดซ่อนเร้น

รีแพร์ คือศัลยกรรมตกแต่งอวัยเพศหญิง เพื่อทำให้กระชับ มั่นใจ ฟิตอีกครั้ง

ชีวิตคู่นอกจากความรัก ความเข้าใจแล้ว ความสุขทางเพศก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยประคองความรักให้ยืนยาวได้ แต่ก็มีบางคู่ที่ต้องจบความสัมพันธ์ลง จากปัญหาของช่องคลอดหลวม ไม่ฟิต หรือไม่กระชับ ทำให้หมดความสนุกในการร่วมรักได้ การผ่าตัด รีแพร์ จุดซ่อนเร้นจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้สาว ๆ ได้กลับมามีชีวิตรักได้อย่างไม่วิตกกังวล

รีแพร์คืออะไร

รีแพร์ ( Repair ) คือ การซ่อมแซมช่องคลอด โดยการผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ที่หย่อนหยานภายในจุดซ่อนเร้นให้มีความกระชับเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นการทำให้ขนาดเส้นผ่าจุดศูนย์กลางของช่องคลอดเล็กลง และเกิดการหดรัดที่ดีกว่าเดิมได้

เนื่องจากเป็นการผ่าตัดบริเวณจุดซ่อนเร้น จึงมีความบอบบางฉะนั้นควรทำการผ่าตัดโดยแพทย์ที่มากประสบการณ์เท่านั้น เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดี และลดโอกาสเสี่ยง หรือผลข้างเคียงต่าง ๆ ซึ่งผลกระทบดังกล่าวอาจทำให้หลังจากทำรีแพร์ไปแล้วมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

นอกจากนี้การทำรีแพร์ หรือมินิรีแพร์ ยังมีความนิยมอย่างมากในกลุ่มคุณแม่หลังคลอดลูก (แบบธรรมชาติ ) เพราะมักพบปัญหาเกี่ยวกับ มีลมออกจากช่องคลอดเวลาลุก นั่ง หรือ ขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเรียกได้อีกอย่างว่า จิ๋มตด ช่องคลอดหย่อนคล้อย ปัสสาวะเล็ด และน้องสาวไม่ฟิตกระชับอย่างเดิมนั่นเอง

ทำไมต้องรีแพร์

ภาวะต่าง ๆ บริเวณจุดซ่อนเร้นไม่ว่าจะเป็น ช่องคลอดหลวม ปัสสาวะเล็ดกลั้นไม่อยู่ หรือควบคุมไม่ได้ รวมถึงน้องสาวไม่กระชับ มักเป็นปัญหาของผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ จะมาจากเกิดให้กำเนิดบุตรคนแรก แต่ปัจจุบันสาว ๆ อายุเพียง 20 ต้น ๆ ก็สามารถพบปัญหาเหล่านี้ได้เช่นกัน จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมต้องผ่าตัดรีแพร์นั่นเอง โดยปัจจัยที่พบได้บ่อยมีดังนี้

  • การคลอดบุตรทางช่องคลอด ทั้งคนเดียว หรือลูกแฝด ล้วนส่งผลให้ช่องคลอดเกิดการฉีกขาด จนเกิดภาวะหย่อนยานได้ในไม่ช้า
  • ช่วงอายุที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะมีลักษณะอ้วน หรือผอม ต่างก็สามารถทำให้บริเวณช่องคลอดเสื่อมสภาพได้
  • พฤติกรรมชอบยกของหนักเป็นประจำ มีโอกาสทำให้ช่องคลอดเกิดการเกร็งตัวได้บ่อย ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้เกิดภาวะปัสสาวะเล็ดได้
  • โรคประจำตัวต่าง ๆ เช่น โรคท้องอืด,โรคความดันโลหิตสูง,ไอเรื้อรัง, หรือมีก้อนเนื้อภายในช่องท้อง ก็สามารถส่งผลกระทบต่อช่องคลอดได้เช่นกัน
  • พฤติกรรมชอบการมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลานาน ๆ การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย จะทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของช่องคลอดได้ไว หรือ คู่นอนมีขนาดองคชาตใหญ่ ก็อาจจะเป็นสาเหตุให้มีการถ่างขยาย ของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานได้

การรีแพร์มีกี่ประเภท?

การศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์จุดซ่อนเร้นนั้น มีแนวทางการรักษาอยู่ 2 เทคนิค คือการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่ง และ การเลเซอร์ ซึ่งสามารถช่วยทำให้ช่องคลอดเกิดความกระชับขึ้นได้ แต่ประสิทธิภาพก็แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแพทย์ และความชอบของคนไข้

การศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์

เป็นการผ่าตัดเพื่อซ่อมแซม หรือเปลี่ยนแปลงรูปร่างตามความต้องการ ซึ่งจะทำให้โครงสร้างช่องคลอดดูกระชับขึ้น สามารถรักษาได้จากหลายสาเหตุ เช่น เคยผ่านการคลอดบุตร, ภาวะช่องคลอดฝ่อ, เคยเกิดอุบัติเหตุรุนแรงบริเวณจุดซ่อนเร้น รวมไปถึงผู้ชายที่ผ่าตัดแปลงเพศก็สามารถทำได้

ถึงอย่างไรก็ตามมีเรื่องสำคัญที่คนไข้ควรรู้ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดจึงมีอาจทำให้มีความเสี่ยง หรือผลข้างเคียงต่าง ๆ ได้หลังจากทำ ฉะนั้นการเลือกแพทย์ผู้มีประสบการณ์ และสถานพยาบาลจึงสำคัญคัญอย่างมาก

การเลเซอร์

การทำรีแพร์ด้วยการยิงเลเซอร์นั้น เป็นวิธีการตกแต่งความหย่อนคล้อยของผิว บริเวณจุดซ่อนเร้น ซึ่งสามารถทำโดยการสัมผัส หรือสอดอุปกรณ์ทางการแพทย์เข้าไปในช่องคลอด เพื่อเพิ่มความกระชับ อีกทั้งยังช่วยในเรื่องความชุ่มชื่น กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด บรรเทาอาการปัสสาวะเล็ด และเพิ่มความกระจ่างให้จุดซ่อนเร้นดูไม่หมองคล้ำ

อย่างไรก็ตามการใช้เลเซอร์ก็มีข้อเสียอยู่ตรงที่ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 3 – 4 ครั้ง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ อาจทำให้คนไข้ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าหัตถการอื่น ๆ

รีแพร์ที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชดีอย่างไร

การผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ แม้จะเป็นทางออกของปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับช่องคลอด แต่มีปัจจัยสำคัญอีกหลายอย่างที่คนไข้ควรรู้ เช่น การเลือกสถานพยาบาลในการเข้ารับการรักษา เนื่องจากปัจจุบันมีสถานพยาบาลเปิดให้บริการอยู่หลายแห่ง แต่จะเลือกทำหัตถการที่ไหนดี และตัดสินใจจากอะไรไปดูพร้อมกันได้เลย

  • สถานพยาบาล

สถานพยาบาลต้องมีมาตรฐานระดับสากล มีความน่าเชื่อถือ และได้รับใบอนุญาตสำหรับประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมไปถึงรายละเอียดเกี่ยวกับแพทย์ พนักงาน รีวิวจากคนไข้ที่เข้ามาใช้บริการจริง หรือช่องทางการติดต่อที่ละเอียดถี่ถ้วนชัดเจน สามารถติดต่อได้จริง และมีสถานที่ตั้งอยู่เป็นหลักแหล่ง เช่น แผนกดูแลจุดซ่อนเร้นสตรี ที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช

  • แพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะด้าน

แพทย์จำเป็นต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และควรจบหลักสูตรสูตินรีเวช เนื่องจากจะสามารถวางแผน และประเมินลักษณะของปัญหาจุดซ่อนเร้นได้อย่างละเอียด รวมถึงต้องได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจแก่คนไข้ จึงจะถือว่ามีคุณสมบัติที่เหมาะสม

  • เครื่องมือมีความทันสมัย

สำหรับการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งรีแพร์ มีความจำเป็นที่ต้องใช้เครื่องมือที่สะอาด ทันสมัย เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่ไม่คาดคิด เนื่องจากจุดซ่อนเร้นมีความบอบบาง และมีโอกาสเสี่ยงจากการติดเชื้อได้ง่าย

ซึ่งทางโรงพยาบาลมาสเตอร์พีชมีแผนกบริการอย่าง Lady Care ที่ได้รีวิวมากถึง 5 ดาว มีใบอนุญาตประกอบกิจการ ทีมแพทย์จบหลักสูตรสูตินรีแพทย์ที่มีประสบการณ์ เครื่องมือทางการแพทย์มีใบรับรองมาตรฐาน อย. ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้มีความน่าเชื่อถือค่อนข้างสูง

การเตรียมตัวก่อนทำรีแพร์

สำหรับการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งจุดซ่อนเร้น คนไข้ต้องรู้เกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนผ่าตัด เพื่อทำความเข้าใจ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ โดยมีวิธีการเตรียมตัวดังนี้

  • แนะนำให้ศึกษาข้อมูลข้อสถานพยาบาลว่ามีใบประกอบกิจการ หรือแพทย์มีใบประกอบวิชาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
  • แนะนำให้ทำหลังจากมีประจำเดือนมาแล้ว เพื่อความสะอาด และปลอดภัยขณะทำการศัลยกรรม
  • แนะนำให้งดอาหารเสริม ยาแก้ปวด หรือยาคลายกล้ามเนื้อ อย่างน้อย 7 – 10 วัน เนื่องจากยาบางชนิดสามารถส่งผลให้เลือดหยุดยากระหว่างทำการผ่าตัดได้
  • หากมีประวัติเกี่ยวกับโรคประจำตัว ประวัติแพ้ยา หรือประวัติการผ่าตัด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 1 – 2 สัปดาห์ เพราะมีโอกาสทำให้แผลผ่าตัดติดเชื้อได้ง่าย
  • แนะนำให้สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย ๆ ไม่รัดรูป หรือคับมากจนเกินไป เนื่องจากอาจทำให้เกิดบาดแผลจากการเสียดสีได้
  • แนะนำให้ชำระล้างร่างกายให้สะอาด ในวันนัดผ่าตัด เช่น โดยเฉพาะบริเวณจุดซ่อนเร้น เพื่อให้การผ่าตัดผ่านไปอย่างราบรื่น

วิธีการดูแลหลังทำรีแพร์

เมื่อผ่านการศัลยกรรมตกแต่งมาแล้ว วิธีการดูแลจุดซ่อนเร้นที่ถูกต้อง หลังทำหัตถการมีข้อปฏิบัติในการดูแลรักษาดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย ที่รุนแรง เช่น วิ่ง,ปั่นจักรยาน,ขี่ม้า หรือยกของหนัก อย่างน้อย 2 – 3 สัปดาห์จนกว่าแผลจะปิดสนิท เพื่อป้องกันภาวะแผลผ่าตัดฉีกขาด
  • หลีกเลี่ยงการเสียดสี กดทับ ถู บริเวณจุดซ่อนเร้น เนื่องจากอาจทำให้แผลผ่าตัดได้รับผล กระทบ
  • งดการมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 4 – 6 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายสนิท เพื่อป้องกันภาวะแผลผ่าตัดฉีกขาด
  • หลีกเลี่ยงอาหารประเภทของหมักดอง หรืออาหารทะเลในช่วงแรก เนื่องจากอาจทำให้แผลมีอาการนูน และหายได้ช้ากว่าปกติ
  • หากมีประจำเดือนมาก่อนแผลจะหาย สามารถใส่ผ้าอนามัย เพื่อช่วยซับเลือดได้ แต่ควรเปลี่ยนบ่อยๆ ทุก 2 ชั่วโมง
  • หลีกเลี่ยงการวิ่ง หรือเคลื่อนไหวบ่อย ๆ ในสัปดาห์แรก เพื่อลดการเสียดสีบริเวณจุดซ่อนเร้น
  • ควรล้างทำความสะอาดช่องคลอดและซับให้แห้งไว้เสมอหลังเข้าห้องน้ำ หรืออาบน้ำ เพื่อป้องกันภาวะอับชื้น ซึ่งก่อให้เกิดภาวะติดเชื้อได้ในภายหลัง

ผลข้างเคียงจากการทำรีแพร์มีอะไรบ้าง

หลังจากผ่าตัดศัลยกรรมรีแพร์มาแล้ว สิ่งต่อมาที่คนไข้ควรเฝ้าระวัง คือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น หลังผ่าตัดได้ โดยมีผลกระทบอะไรบ้างไปดูกัน

ปวดบริเวณจุดซ่อนเร้น

อาการปวดเบ่งคล้าย ๆ เหมือนอยากขับถ่ายตลอดเวลา หรือจุกเสียดบริเวณแผลผ่าตัด จะเป็นผลข้างเคียงในช่วง 2 – 3 วันแรกหลังผ่าตัด ซึ่งมักเกิดจากพฤติกรรม การขึ้น – ลงบันได หรือกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน

อาการปัสสาวะไม่ออก

กรณีปัสสาวะไม่ออก และมีอาการปวดมากบริเวณแผลผ่าตัด ควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบทันที

เลือดออกมากกว่าปกติ

จุดซ่อนเร้นนั้นมีความละเอียดอ่อนมาก เนื่องจากมีเส้นเลือดอยู่เป็นจำนวน แพทย์จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ รวมถึงใช้เทคนิคการเย็บแผลผ่าตัดแบบละเอียด แต่บางกรณีอาจมีการดิ้นของไหมเย็บ หรือเมื่อแผลลดบวมแล้วปมไหมหย่อน ทำให้มีเลือดออกมากผิดปกติได้ ควรรีบแจ้งแพทย์โดยทันที

แผลติดเชื้อ

เชื้อโรค หรือแบคทีเรียชนิดต่าง ๆ ที่อยู่ในปัสสาวะ/อุจจาระ อาจจะปนเปื้อนทำให้แผลติดเชื้อได้  การปฏิบัติตามขั้นตอนการเตรียมตัว หรือแนวทางการดูแลรักษาจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะถ้าไม่ได้ทำตามอย่างเคร่งครัดอาจเกิดผลกระทบด้านลบได้

คุณหมออัส นพ.ศักดิ์นันท์ พาณิชย์พงศ์พัฒน์

นพ.ศักดิ์นันท์ พาณิชย์พงศ์พัฒน์ (หมออัส)

วุฒิการศึกษาสูตินรีเวชศาสตร์แพทยสภา(ราชวิถี) มหาวิทยาลัยรังสิต 2544
เลขวุฒิบัตร 15108/2548 (สูติศาสตร์-นรีเชวิทยา)
เลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม 27373

พญ.ชลธิชา เชนชีวะชาติ (หมออิคคิว)

แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดลปี 2542-2548 (1999-2005)
เลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม 32020

คุณหมอนุ่น
พญ.กุลธิดา ลุสวัสดิ์

พญ.กุลธิดา ลุสวัสดิ์ (หมอนุ่น)

ปริญญาตรี แพทยศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ปริญญาโท สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เลขวุฒิบัตร 32930/2560 (สูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา)
เลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม 46556

แชร์เลย: