เสริมหน้าอกที่ไหนดี แผลเล็ก เจ็บน้อย เข้าที่เร็ว
การตัดสินใจเสริมหน้าอกเป็นเรื่องที่สำคัญและต้องการข้อมูลที่ครบถ้วนก่อนที่จะลงมือทำ หลายคนอาจสงสัยว่า “เสริมหน้าอกที่ไหนดี?” หรือ “รีวิวจากคนที่เคยทำหน้าอกมาก่อนเป็นอย่างไร?” ในบทความนี้เราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับทุกเรื่องที่คุณควรรู้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลหลังเสริมหน้าอก, ระยะเวลาที่ต้องพักฟื้นกี่วัน และกว่าจะเข้าที่ต้องใช้เวลานานกี่เดือน บทความนี้จะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลครบถ้วนและรู้สึกมั่นใจมากขึ้นก่อนตัดสินใจเสริมหน้าอก
ไขข้อสงสัยเสริมหน้าอกแบบไหนดี
โดยทั่วไป ซิลิโคนสำหรับเสริมหน้าอกมี 2 รูปทรงหลักๆ คือ
ทรงกลม
ทรงกลม เหมาะกับผู้หญิงที่มีเนื้อหน้าอกน้อย ต้องการเพิ่มความอวบอึ๋มเต่งตึงให้หน้าอก ซิลิโคนทรงนี้จะมีรูปทรงกลม ช่วงกลางของซิลิโคนจะนูนออกมามากกว่าส่วนอื่น ช่วยให้หน้าอกดูอวบอึ๋มและมีเนินอก เหมาะกับผู้หญิงที่ต้องการแก้ไขปัญหาหน้าอกเล็กหรือหน้าอกแบน
ทรงหยดน้ำ
ทรงหยดน้ำ เหมาะกับผู้หญิงที่มีเนื้อหน้าอกเยอะ ฐานอกกว้าง ต้องการเพิ่มความกลมกลืนดูเป็นธรรมชาติ ซิลิโคนทรงนี้จะมีรูปร่างคล้ายทรงของหยดน้ำ ส่วนบนจะลีบแบนกว่าส่วนล่าง ช่วยให้หน้าอกดูเป็นธรรมชาติ มีความหย่อนคล้อยเล็กน้อยใกล้เคียงหน้าอกจริง เหมาะกับผู้หญิงที่ต้องการแก้ไขปัญหาหน้าอกตก หรือต้องการเสริมหน้าอกให้ดูเป็นธรรมชาติ
ศัลยกรรมเสริมหน้าอก เหมาะกับใคร?
ผู้ที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอก
เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีหน้าอกเล็กหรือหน้าอกไม่สมส่วนกับสรีระ และต้องการเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้น
ผู้ที่ต้องการแก้ไขรูปทรงหน้าอก
เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีหน้าอกหย่อนคล้อย เปลี่ยนรูปทรง หรือ มีปัญหาความไม่สมมาตรของหน้าอก
ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างความมั่นใจ
การเสริมหน้าอก ช่วยให้ผู้หญิงรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการผ่าตัด มี ความคาดหวังที่สมจริงเกี่ยวกับผลลัพธ์ และเข้าใจความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น จะเหมาะกับการศัลยกรรมเสริมหน้าอก
ซิลิโคนที่ใช้เสริมหน้าอกมีกี่ประเภท
1. ซิลิโคนน้ำเกลือ (Saline implants)
- ซิลิโคนน้ำเกลือเป็นถุงซิลิโคนที่บรรจุน้ำเกลือปราศจากเชื้อ แพทย์จะทำการเติมน้ำเกลือเข้าไปในถุงจนได้ขนาดที่ต้องการก่อนที่จะนำไปเสริมหน้าอก
- ซิลิโคนน้ำเกลือมีข้อดีคือราคาถูกกว่าซิลิโคนเจล และหากถุงซิลิโคนรั่วจะทราบได้ง่ายเพราะน้ำเกลือจะไหลออกมา
- ซิลิโคนน้ำเกลือมีข้อเสียคือ รู้สึกแข็งและเป็นธรรมชาติน้อยกว่าซิลิโคนเจล และมีโอกาสเกิดคลื่นบนผิวหน้าอกได้มากกว่า
2. ซิลิโคนแบบเจล (Silicone gel implants)
- ซิลิโคนแบบเจลเป็นถุงซิลิโคนที่บรรจุเจลซิลิโคนที่มีความหนืดคล้ายเนื้อเยื่อเต้านม
- ซิลิโคนแบบเจลมีข้อดีคือ รู้สึกนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติมากกว่าซิลิโคนน้ำเกลือ และมีโอกาสเกิดคลื่นบนผิวหน้าอกน้อยกว่า
- ซิลิโคนแบบเจลมีข้อเสียคือ ราคาแพงกว่าซิลิโคนน้ำเกลือ และหากถุงซิลิโคนรั่วจะทราบได้ยากเพราะเจลซิลิโคนจะไม่ไหลออกมา
เสริมหน้าอกที่ไหนดี เลือกโรงพยาบาลศัลยกรรมอย่างไร
การเลือกสถานที่เสริมหน้าอกและโรงพยาบาลศัลยกรรมที่ดีเป็นเรื่องสำคัญมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจและปลอดภัย นี่คือแนวทางที่ควรพิจารณาในการเลือก
การเลือกสถานที่เสริมหน้าอก
ประสบการณ์ของแพทย์
- ควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ในด้านการเสริมหน้าอก สามารถตรวจสอบใบอนุญาตและการรับรองจากองค์กรแพทย์ต่าง ๆ ได้
มาตรฐานของโรงพยาบาล
- โรงพยาบาลควรได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์กรทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้ และเช็กว่าโรงพยาบาลมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยและครบครัน
ศึกษารีวิวจากผู้ใช้บริการจริง
- ค้นหารีวิวและความคิดเห็นจากผู้ที่เคยเข้ารับบริการจริง การดูรูปภาพก่อนและหลังการเสริมหน้าอกของผู้เข้ารับบริการก็เป็นวิธีหนึ่งที่ดีในการตัดสินใจ
อ่านข้อมูลการเสริมหน้าอกและรีวิว คลิ๊ก
การให้บริการหลังการผ่าตัด
- โรงพยาบาลควรมีการดูแลหลังการผ่าตัดอย่างครบวงจร รวมถึงการติดตามผลและให้คำปรึกษาหลังการผ่าตัด
ค่าใช้จ่าย
- พิจารณาค่าใช้จ่ายในการเสริมหน้าอก รวมถึงค่าผ่าตัด ค่ายา ค่าบริการหลังการผ่าตัด ฯลฯ แต่ไม่ควรเลือกที่ราคาถูกเกินไปจนเสี่ยงต่อความปลอดภัย
วิธีเตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรม
- ปรึกษาแพทย์: นัดปรึกษากับศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านเสริมหน้าอก แจ้งความต้องการ รูปร่างหน้าอกที่ชอบ ปัญหาและข้อกังวลต่างๆ แพทย์จะประเมินความเหมาะสม ตรวจร่างกาย แนะนำวิธีการผ่าตัด เลือกขนาดซิลิโคน อธิบายรายละเอียด ผลข้างเคียง ค่าใช้จ่าย และตอบคำถามให้ครบถ้วน
- เตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- ตรวจร่างกาย: ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เอกซเรย์ปอด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย แจ้งโรคประจำตัว ยาที่ทาน อาหารเสริม ภูมิแพ้ แผลเป็น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ให้แพทย์ทราบ
- งดสูบบุหรี่: อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด เพราะนิโคตินส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด การหายแผลช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- งดดื่มแอลกอฮอล์: อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด เพราะแอลกอฮอล์ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เสี่ยงต่อการมีเลือดออกมาก
- หยุดยาบางชนิด: แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่ทาน ยาบางชนิดอาจต้องหยุดทานก่อนผ่าตัด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาแอสไพริน ยาสมุนไพร วิตามินบางชนิด
วิธีดูแลตัวเองหลังศัลยกรรม
การดูแลตัวเองหลังเสริมหน้าอกเป็นสิ่งสำคัญมาก ช่วยให้แผลหายเร็ว ลดอาการบวม อักเสบ และเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ผลลัพธ์ของการเสริมหน้าอกออกมาสวยงาม
- ทำความสะอาดแผล เช็ดแผลด้วยน้ำเกลือหรือเบตาดีน เช้า-เย็น ลอกผ้าปิดแผลตามคำแนะนำของแพทย์
- ใส่ซัพพอร์ตบาร์ เป็นเสื้อในแบบพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับหลังผ่าตัดเสริมหน้าอก ช่วยพยุงหน้าอก ลดการเคลื่อนไหว กระชับทรง ควรใส่ต่อเนื่อง 4 – 6 สัปดาห์
- รับประทานอาหาร ทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นโปรตีน ผัก ผลไม้ วิตามิน แร่ธาตุ หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารทะเล อาหารรสจัด เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- งดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ เพราะนิโคตินส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด การหายแผลช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ เพราะแอลกอฮอล์ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด เสี่ยงต่อการมีเลือดออกมาก
- งดยกของหนัก หลีกเลี่ยงการยกของหนัก หรือออกแรงที่หน้าอก อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ เพราะเสี่ยงต่อการแผลฉีกขาด
- งดออกกำลังกาย งดออกกำลังกายหนัก ว่ายน้ำ ยกเวท อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ สามารถออกกำลังกายเบาๆ เช่น เดิน ได้หลังจาก 2 สัปดาห์ หลังการผ่าตัด
ข้อห้ามหลังทำหน้าอก
หลังการทำหน้าอกมีข้อห้ามหลายประการเพื่อให้การฟื้นฟูเป็นไปได้อย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน นี่คือบางข้อห้ามที่สำคัญ
- ห้ามยกของหนัก หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือการทำกิจกรรมที่ใช้แรงงานมากในช่วง 4-6 สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและให้แผลหายดี
- ห้ามออกกำลังกายหนัก หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ใช้แรงมาก เช่น การยกเวทหรือการวิ่ง ในช่วงแรกหลังการผ่าตัด ควรรอจนกว่าแพทย์จะอนุญาต
- ห้ามนอนคว่ำ การนอนคว่ำจะกดทับหน้าอกและแผลผ่าตัด ควรนอนหงายหรือนอนตะแคงเล็กน้อยในช่วงแรกหลังการผ่าตัด
- ห้ามสัมผัสหรือกดทับแผล ไม่ควรสัมผัสหรือกดทับแผลผ่าตัดโดยไม่จำเป็น เนื่องจากอาจทำให้แผลหายช้าและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ห้ามแช่น้ำร้อนหรือว่ายน้ำ หลีกเลี่ยงการแช่น้ำร้อนหรือว่ายน้ำในช่วงแรกหลังการผ่าตัด เนื่องจากอาจทำให้แผลผ่าตัดเปียกและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ห้ามทำกิจกรรมทางเพศ ควรงดกิจกรรมทางเพศในช่วงแรกหลังการผ่าตัด เนื่องจากการกดทับและการเคลื่อนไหวอาจทำให้แผลฟื้นฟูช้าลง
การปฏิบัติตามข้อห้ามเหล่านี้จะช่วยให้การฟื้นฟูหลังการทำหน้าอกเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยง ต่อภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ควรปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิดและทำตามคำแนะนำของแพทย์เสมอ
ศัลยกรรมหน้าอก พักฟื้นกี่วัน
โดยทั่วไปแล้ว การศัลยกรรมเสริมหน้าอก จะต้องพักฟื้นประมาณ 5-7 วัน ในโรงพยาบาล 1 คืน และพักฟื้นต่อที่บ้านอีก 4-6 วัน ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก ผู้หญิงควรสวมเสื้อในพิเศษ (compression bra) เพื่อช่วยพยุงหน้าอกและลดอาการบวม และควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก ยกของหนัก หรือออกกำลังกาย
ซิลิโคนเสริมหน้าอกอยู่ได้กี่ปี
ซิลิโคนเสริมหน้าอกสามารถอยู่ได้ประมาณ 10-15 ปี แต่หลังจาก 10 ปี ผู้หญิงที่เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจเช็คสภาพซิลิโคน แพทย์จะพิจารณาจากอาการ สัญญาณ และผลการตรวจร่างกาย ว่าซิลิโคนยังอยู่ในสภาพดี หรือจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่
เสริมหน้าอก หมอไหนดี ที่มาสเตอร์พีช ดีอย่างไร
การตัดสินใจเสริมหน้าอกเป็นการตัดสินใจที่สำคัญมาก หากต้องเลือกว่า เสริมหน้าอกทีไหนดี ก็ควรเลือกหมอที่เหมาะสมและสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อความลดความเสี่ยง และผลลัพธ์ที่ดี สำหรับผู้ที่กำลังมองหาหมอเสริมหน้าอกที่ดี หนึ่งในตัวเลือก คือการทำศัลยกรรมที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช เนื่องด้วยมีแพทย์ที่มีประสบการณ์ ด้านการศัลยกรรมหน้าอก แผลผ่าตตัดมีขนาดเล็ก จึงทำให้การพักฟื้นใช้เวลาไม่นาน พร้อมบริการฝึกษาฟรี แบบเคสต่อเคส ที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช